สินธุ์เพชร์ควงวรเชษฐ์ซิวทองศึกยกเหล็กยช.อช.

เผยแพร: 09/03/2014 โดย:Web Master

”เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร์ กรวยทอง นักยกเหล็กรุ่น 56 กก.ชาย
และ ”เอ็ม” วรเชษฐ์ ใสสะอาด จอมพลังรุ่น 62 กก.ชาย ซิวคนละ 1 เหรียญทอง
ให้แก่ประเทศไทย ในศึกยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปีพ.ศ.2557
ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
”เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2557”
          การแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี พ.ศ. 2557
ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
“เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2557″
ระหว่างวันที่ 5-9 มี.ค. 57 ที่อาคารสนามกีฬาอเนกประสงค์ เทศบาลเมืองชลบุรี จ.ชลบุรี
โดยเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา มีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขัน 4 รุ่น ในคลาส เอ
          ประกอบด้วย รุ่น 56 กก.ชาย วิฑูรย์ มิ่งมูล กับ สินธุ์เพชร์ กรวยทอง,
รุ่น 48 กก.หญิง อรอุมา วันฤกษ์,
รุ่น 62 กก.ชาย วรเชษฐ์ ใสสะอาด และ
รุ่น 53 กก.หญิง โสภิตา ธนสาร กับ สุพัตรา แก้วคง
          ในรุ่นแรกของวัน คลาส เอ น้ำหนัก 56 กก. ชาย
ไทยประเทศเจ้าภาพส่งนักกีฬาร่วมชิงชัยสองคน วิฑูรย์ มิ่งมูล นักยกเหล็กดาวรุ่ง วัย 20 ปี
ที่รอวันแจ้งเกิดกับทีมชาติชุดใหญ่ และ
จอมทำลายสถิติ “เจ้าดุ่ย” สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ยกเหล็กวัย 21
ผู้เป็นเจ้าของสถิติยุวชนโลกคนปัจจุบัน และเป็นจอมทำลายล้างสถิติเก่าในทุกระดับชั้น
โดยมี เดเชง ลอง จากจีน และ วาน เวียด เหงียน ของเวียดนามเป็นบรรดาตัวเต็งในรุ่นนี้
          เริ่มท่าสแนตช์ ตัวแทนจากไทย วิฑูรย์ มิ่งมูล ของไทยเปิดตัวเป็นคนแรก
จากการเรียกน้ำหนักน้อยที่สุดจากนักกีฬาทั้งหมด 7 คน ที่ 95 กก.
แต่เจ้าตัวยกพลาดทำเหล็กหลุดมือทำให้เจ้าตัวต้องยกต่อครั้งที่สอ
งด้วยน้ำหนักเดิม 95 กก. ทันที เที่ยวนี้สำเร็จ
ก่อนที่ วิฑูรย์ จะยกครั้งที่สามผ่านด้วยน้ำหนัก 99 กก.
          ส่วนอีกหนึ่งนักกีฬาจากไทย สินธุ์เพชร์ กรวยทอง ตัวเต็งในท่าสแนตช์นี้
ได้ฤกษ์ยกเป็นคนสุดท้าย หลังจากที่เรียกน้ำหนักมากที่สุดที่ 111 กก.
“เจ้าดุ่ย-สินธุ์เพชร์” โชว์แกร่งครั้งแรกยกผ่านฉลุย ครั้งที่สองเรียก 116
เจ้าตัวก็ยังสามารถสแนตช์ผ่านไปได้อีกครั้ง ขณะนี้แม้เจ้าตัวจะยังไม่ได้ยกครั้งที่สาม
แต่ก็ทราบว่าตนเองสามารถซิวเหรียญทองได้เป็นที่แน่นอนแล้ว
เพราะอีก 2 ตัวเต็งที่ยกไล่บี้น้ำหนักมาอย่าง วาน เวียด เหงียน ของเวียดนาม
กับ เดเชง ลอง ของจีน ได้จบสถิติการยกสามครั้งที่น้ำหนัก 108 กก. ทั้งคู่
          ซึ่งเป็นนักยกเหล็กจากเวียดนามที่คว้าเหรียญเงินไปเพราะน้ำหนักตัวน้อยกว่า
และจีนได้ทองแดง ก่อนที่จอมพลังจากไทยจะยกเป็นครั้งสุดท้ายที่ 121 กก.
แต่พลาดไป เจิร์กไม่ขึ้น สถิติของ สินธุ์เพชร์ จึงหยุดที่ 116 กก. เท่านั้น
ส่วน วิฑูรย์ ได้เพียงอันดับ 7 ของท่าสแนตช์นี้
          ด้านท่าคลีนแอนด์เจิร์ก การแข่งขันค่อนข้างเบียดกัน เพราะคู่แข่งที่สูสีกัน
ไม่ได้มีแค่ สินธุ์เพชร์ และจีนกับเวียดนามอีกแล้ว
ในท่านี้ วิฑูรย์ ของไทยก็กลับทำผลงานได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์
โดยสถานการณ์การยกในกลุ่มผู้นำ วิฑูรย์ ขึ้นยกเป็นคนที่ 5 เรียกน้ำหนักที่ 135 กก.
แม้ขณะที่เจ้าตัวเจิร์กค้างจะมีอาการสั่นของแขนอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดไปได้
          ต่อมาเป็นคิวของ เดเชง ลอง จากจีนที่เรียก 135 กก.บ้าง และก็ผ่านเหมือนกัน
กลับมาที่ วิฑูรย์ ซึ่งเจ้าตัวยกแซงอีกครั้งที่ 139 กก. ถึงตอนนี้ยกเหล็กจากไทย
ได้เหรียญทองแดงแน่นอนแล้ว เพราะคู่แข่งที่มีน้ำหนักสูงเป็นอันดับ 4
ซึ่งไล่กันมาอย่าง โฮ กยอง จอน จากเกาหลีเหนือ จบสถิติท่านี้ที่ 135 กก.
ถัดมาถึงคราวของ สินธุ์เพชร์ ที่ยกเป็นคนสุดท้าย เจ้าดุ่ย เรียกที่ 140 กก.
แต่แล้วเจ้าของเหรียญทองท่าสแนตช์เกิดพลาด
จังหวะที่จะขึ้นคลีนหลักไม่ดี ขารับน้ำหนักไม่ไหวนั่งหงายหลังลงไป
          สินธุ์เพชร์ ต้องยกครั้งที่สองต่อทันทีกับน้ำหนักเดิม 140 กก. คราวนี้ไม่พลาด
จอมทำลายสถิติขึ้นทำน้ำหนักเป็นผู้นำ
นักกีฬาจากไทยยกต่อทันที เป็นการยกครั้งที่สามของ วิฑูรย์ เจ้าตัวเรียก 141
ก่อนยกสายตามุ่งมั่นมากและก็ทำสำเร็จ ตอนนี้อันดับ 1 และ 2 เป็นของไทยทั้งหมด
เดเชง ลอง ต้องการกลับมานำ จึงเรียกครั้งที่สองไปที่ 148 และยกผ่านแบบไร้ปัญหา
          ครั้งสุดท้ายของ สินธุ์เพชร์ เรียกแซงจีนที่ 149 กก. หากยกผ่าน
จะยกความกดดันทั้งหมดไปที่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ทว่าจังหวะจะขึ้นเจิร์กของ สินธุ์เพชร์
เกิดผิดพลาดคุมน้ำหนักเหล็กไม่อยู่ ปล่อยตกไปข้างหลัง
ทำให้พลาดโอกาสคว้าเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย
เท่ากับว่า วิฑูรย์ มิ่งมูล ขึ้นมาคว้าเหรียญเงินแทนด้วยน้ำหนัก 141 กก.
          และ สินธุ์เพชร์ กรวยทอง พลาดท่าได้เพียงทองแดงจากสถิติ 140 กก.
การยกครั้งที่สามของนักกีฬาจีนจึงมีท่าทีที่ผ่อนคลาย และเรียกกระโดดไปถึง 153 กก.
และเจ้าตัวก็ไม่พลาดด้วย คว้าเหรียญทองได้ด้วยสถิตินี้
และเป็นสถิติเทียบเท่ากับสถิติของระดับยุวชนเอเชีย
ที่ คิม ตวน ตัช นักยกเหล็กเจ้าของสถิติของเวียดนามได้ทำเอาไว้
          ขณะที่ผลน้ำหนักรวม เหรียญทอง เป็นของ เดเชง ลอง จากจีน ยกได้ 261 กก.
เหรียญเงิน สินธุ์เพชร์ กรวยทอง จากไทย ยกได้ 256 กก.
และทองแดงเป็นของ วิฑูรย์ มิ่งมูล จากไทย ยกได้ 240 กก.
สรุป สินธุ์เพชร์ ได้ 1 ทอง 1 เงิน และ 1 ทองแดง
ส่วน วิฑูรย์ ได้ 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง
          หลังเกม “เจ้าดุ่ย-สินธุ์เพชร์” เผยว่า ทราบว่าหลายๆ คนตั้งความหวังไว้ที่ผม
แต่ก่อนการแข่งขันได้มีอาการบาดเจ็บบริเวณหลังระหว่างซ้อมทำให้ยกได้ไม่เต็มที่
แต่ในท่าสแนตช์ที่ได้เหรียญทองกับสถิติ 116 กก.ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว
แม้จะเคยยกได้มากกว่านี้ก็ตาม หลังจากนี้ก็เตรียมตัวรักษาอาการบาดเจ็บให้หาย
และสู้ศึกกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่ จ.ศรีสะเกษ และยังคงหวัง
ที่จะได้สิทธิ์ไปแข่งเอเชียนเกมส์ให้ได้เพราะเป็นความใฝ่ฝันมานานแล้ว
          ขณะที่ วิฑูรย์ มิ่งมูล คลื่นลูกใหม่แห่งวงการยกเหล็กไทยที่ได้ 1 เงิน 1 ทองแดง
จากการแข่งขันครั้งนี้ก็เปิดใจว่าตื่นเต้นกับรายการใหญ่ๆ แบบนี้ แต่ก็ไม่เคยกลัวใคร
พอใจมากแล้วกับผลงานที่ออกมา เพราะก่อนแข่งร่างกายทั้งผม
และ สินธุ์เพชร์ ก็ไม่เต็มร้อยทั้งคู่ แต่เมื่อขึ้นมาอยู่บนเวทีก็ต้องสู้เต็มร้อย
          ถัดมาในรุ่น 62 กก.ชาย ไทยส่ง “เอ็ม” วรเชษฐ์ ใสสะอาด
เจ้าของเหรียญเงินชิงแชมป์เอเชียที่พัทยาเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2011 ลงทำการแข่งขัน
โดยในท่าสแนตช์ยกเหล็กจากไทยไม่สามารถเทียบชั้นบรรดาตัวเต็งชาติอื่นได้
ทำได้เพียงจบที่อันดับ 5 ด้วยสถิติ 115 กก.
เหรียญทองเป็น เหว่ยหัว หยิง จากจีน เหรียญเงิน อดิลเบค บัลคาเยฟ จากคาซัคสถาน
ทองแดงเป็นของ แกลกมองต์ คอนสแตนติน จากมาเลเซีย
          ในท่าคลีนแอนด์เจิร์ก วรเชษฐ์ ใสสะอาด สร้างเซอร์ไพรส์
คล้ายกับว่าเตรียมตัวในการยกท่าคลีนแอนด์ เจิร์ก เรียกน้ำหนักมากที่สุดในผู้เข้าแข่งขัน
เทียบเท่ากับเจ้าของทองท่าสแนตช์จากจีน ที่ 155 กก. หนุ่มเอ็มโชว์ฟอร์มสุดยอด
ยกผ่านสบาย ก่อนยกครั้งที่สองกับน้ำหนัก 156 กก. ไร้ปัญหา
และจบครั้งที่สามด้วยน้ำหนัก 159 กก.อย่างยอดเยี่ยม
ซิวเหรียญทองไปกอดหน้าตาเฉย ทิ้งให้จีนที่เรียกน้ำหนักครั้งแรกเท่ากัน
แต่ยกสองหนแรกไม่ผ่าน มาผ่านน้ำหนัก 155 กก.ในครั้งที่สามได้เพียงเหรียญเงิน
ส่วนทองแดงเป็น แกลกมองต์ คอนสแตนติน จากมาเลเซีย ยกได้ 154 กก.
          ผลน้ำหนักรวม “เอ็ม-วรเชษฐ์” ได้เหรียญเงินที่น้ำหนัก 274 กก.
เหรียญทองเป็นของ เหว่ยหัว หยิง จากจีน ทำได้ 290 กก.
และทองแดงเป็น แกลกมองต์ คอนสแตนติน จากมาเลเซีย ทำได้ 274 กก.
เท่า วรเชษฐ์ แต่น้ำหนักตัวมากกว่า
          หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน “เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย
นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า
หลังจากการแข่งขันรายการยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชียหนนี้ผ่านมา 6 วัน
เราขาดสองผู้เล่นสำคัญที่ไม่ได้ส่งลงแข่งขันคือ ธัญญ่า สุขเจริญ และ นวพร แดงศรี
ที่ทำผลงานแกร่งให้ทีมชาติมาตลอดในระยะหลัง แต่
เราก็ได้ดาวรุ่งดวงใหม่ขึ้นมาทดแทนมากมาย อาทิ ดวงอักษร ใจดี
ที่คว้า 3 เหรียญทองไปเมื่อวาน ซึ่งคนนี้ถือเป็นตัวความหวัง
หากได้เข้าไปแข่งขันใน ยูธ โอลิมปิกเกมส์เลยทีเดียว
          ตอนนี้เราก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเอาใครไปแข่งรายการดังกล่าว
จากที่ตอนนี้มีแคนดิเดตอยู่ 5 คน คือ
ธัญญ่า สุขเจริญ,
นวพร แดงศรี,
รัตนาพร ปักการะถา,
วนิดา ชอบงาม
และ ดวงอักษร ด้วยโควตาเพียง 2 คน
จึงจะต้องมาเบียดแย่งตำแหน่งกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเราจะเริ่มคัดในช่วงเดือน ก.ค. นี้
          ขณะที่ฝ่ายชายเรามี ศักดา มีบุญ ในรุ่น 62 กก. กับ ณัฐวุฒิ สืบสวน รุ่น 69 กก.
ที่เด่นขึ้นมา หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันเราก็จะเริ่มนำนักกีฬาที่เป็นแคนดิเดตเหล่านี้เก็บตัว
โดยจะให้แมตช์การแข่งขันรายการคิงส์คัพ ที่จ.ขอนแก่น ในเดือน พ.ค. นี้เป็นตัววัด
หรือบางคนก็อาจจะให้ไปวัดฝีมือในรายการชิงแชมป์เยาวชนโลก
ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ในช่วงกลางปี
          อย่างไรก็ดีจากการแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชียครั้งนี้
ทำให้เราได้เห็นดาวรุ่งดวงใหม่หลายๆ คนที่แสดงศักยภาพออกมาได้ดีพอ
ที่จะขึ้นมาประดับวงการยกน้ำหนักไทยได้
ให้ยกน้ำหนักไทยเปลี่ยนถ่ายไปจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา
          ส่วนประเด็นของ
สินธุ์เพชร์ กรวยทอง นักยกเหล็กที่คว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง
ในวันนี้จะมีสิทธิ์สอดแทรกเข้าไปติดทีมชาติลุยศึกเอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้
 ในเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ได้หรือไม่นั้น
เสธ.ยอด เผยว่า อันที่จริงตอนแรกเรามองไว้ว่าจะให้ สินธุ์เพชร์ เป็นตัวยืนในเอเชียนเกมส์
แต่จากการที่ทางสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยได้มานั่งดูฟอร์มของเขาในวันนี้
เราเล็งเห็นว่าเจ้าตัวอาจจะยังไม่แกร่งพอที่จะคว้าเหรียญในเอเชียนเกมส์ได้
          สมาคมฯ จึงได้เตรียมที่จะวางแผนให้คนที่คาดว่าไปแข่งเอเชียนเกมส์แล้ว
น่าจะมีดีพอที่จะคว้าเหรียญ ไม่ว่าจะด้วยความสามารถหรือประสบการณ์ไปแข่งขัน
ซึ่งอาจจะเป็นบรรดารุ่นประชาชน ส่วนคนที่อาจจะไปแล้วยังไม่น่าได้เหรียญ
ก็จะให้ไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศคาซัคสถานในเดือน พ.ย. แทน
          เรื่องนี้เรากำลังจะตัดสินใจอยู่เพราะการจับปลาสองมือนั้นเป็นเรื่องยาก
แน่นอนว่ารายการใหญ่อย่างเอเชียนเกมส์ใครก็อยากได้ แต่หากนักกีฬาเราไปแข่งชิงแชมป์โลกแล้ว
ได้แชมป์นั่นก็เท่ากับว่าเราจะได้โควตาไปกีฬาโอลิมปิกไปในตัว
 ฉะนั้นเราต้องมานั่งตรึกตรองว่าหากอยากจะจับปลาให้ได้ทั้งสองมือ เราควรจะทำเช่นไร
ซึ่งจากนี้ทางสมาคมฯ ยังมีเวลาอีกกว่า 6-8 เดือนให้ตัดสินใจ แน่นอนว่าทุกขั้นทุกตอน
เราจะทำการจัดการให้ทุกอย่างออกมาดีเพื่อชื่อเสียงของพี่น้องชาวไทยแน่นอน
          ขณะที่ผลการแข่งขันรุ่นอื่น
คลาส เอ รุ่นน้ำหนัก 48 กก. หญิง ท่าสแนตช์ ทอง หลี่ดาน คิน (จีน) ทำได้ 81 กก.,
เงิน มิราไบ ชานู ไซคม (อินเดีย) ทำได้ 75 กก.,
ทองแดง ซูล-คี ลี (เกาหลีใต้) ทำได้ 73 กก.
          คลีนแอนด์เจิร์ก ทอง หลี่ดาน คิน (จีน) ทำได้ 106 กก.,
เงิน มิราไบ ชานู ไซคม (อินเดีย) ทำได้ 93 กก.,
ทองแดง ซูล-คี ลี (เกาหลีใต้) ทำได้ 91 กก.,
น้ำหนักรวม ทอง หลี่ดาน คิน (จีน) ทำได้ 187 กก.,
เงิน มิราไบ ชานู ไซคม (อินเดีย) ทำได้ 168 กก.,
ทองแดง ซูล-คี ลี (เกาหลีใต้) ทำได้ 164 กก.
          ส่วน อรอุมา วันฤกษ์ ตัวแทนสาวไทยยกได้อันดับที่ 4 จากทุกท่า สแนตช์ ยกได้ 67 กก.,
คลีนแอนด์เจิร์ก ยกได้ 85 กก. และน้ำหนักรวมยกได้ 152 กก.
ส่วนการแข่งขันในรุ่น 53 กก.หญิง ที่จะมีสองนักกีฬาไทยอย่าง โสภิตา ธนสาร
กับ สุพัตรา แก้วคง ลงชิงชัย จะทำการแข่งขันในช่วงดึกต่อไป
          สำหรับการแข่งขันในวันที่ 10 มี.ค. 57 มีนักกีฬาไทยลงทำการแข่งขันทั้งสิ้น 4 รุ่น
ประกอบด้วย คลาส เอ รุ่น 69 กก.ชาย วิษณุ จันทรี
เวลา 11.00 น., รุ่น 58 กก.หญิง ณัฐฐาพร แสงสุวรรณ กับ กมลชนก อินทมาตย์
เวลา 13.00 น., รุ่น 77 กก.ชาย สุทธิพงค์ สุวรรณรัตน์ เวลา 15.00 น.
และ รุ่น 63 กก.หญิง ดลพร ถนอมรุ่งเรือง เวลา 17.00 น.