“เมย์” ย้ำแค้น ตบ “หยานเจียว “2-1 แบดฯ อาชีพจีน “โมทย์” ปลื้มรับแจกันพระราชทาน

เผยแพร: 30/09/2012 โดย:Web Master

           “รัชนกย้ำแค้นหยานเจียวลีกจีน

          “น้องเมย์รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันหญิงเดี่ยวมืออันดับ 10 ของโลกประเดิมแมตช์แรก
ในการลงสนามเล่นลีกอาชีพเลกที่ 2 ให้กับสโมสรแบดมินตันชิงต่าวในประเทศจีน เป็นลีกระดับชูเปอร์ลีก
โดยเมื่อพฤหัสที่ 27 กันยายน 2555 ทีมชิงต่าว มีโปรแกรมลงสนามพบกับทีมเหลียวหนิงสำหรับ
การพบกันในเลกแรกทีมชิงต่าวโชว์ฟอร์มสุดยอดเอาชนะมาได้ขาดลอย 5-0 คู่
การพบกันในเลกที่ 2 การแต่งขันได้ย้ายมาแข่งที่เมืองกว่างโจว เพราะหางเมืองกว่างโจวซื้อแมตช์
ระหว่างทีมชิงต่าวพบกับทีมเหลียวหนิงไปจัดการแข่งขัน
          ประเดิมคู่ที่ 1 ประเภทชายคู่ เสิ่น เยี่ย กับ ฮอง เหว่ย ชนะ (ทีมชิงต่าว) ชนะ
หลี่ เผิง กับ เข่อ มู่ (ทีมเหลียวหนิง) 2-0 เกม 21-16, 21-16 ทีมชิงต่าวออกนำ 1-0 คู่,
จากนั้นคู่ที่สองในประเภทชายเดี่ยว ดู เปงยู่ (ทีมชิงต่าว) ชนะ โจว เหวินหลง (ทีมเหลียวหนิง) 2-0 เกม
21-16, 21-13 ทีมชิงต่าวออกนำ 2-0 คู่, คู่ที่ 3 ประเภทคู่ผสม ชิว จื่อฮั่น กับ หม่า จิน (ทีมชิงต่าว)
ชนะ คู่ ไค่ กับ ยู่ หยาง (ทีมเหลียวหนิง) 2-1 เกม 16-21, 21-16, 21-16 ทีมชิงต่าว เอาชนะไปได้ 3-0 คู่
          ส่วนหญิงเดี่ยวลงสนามเป็นคู่ที่ 4 ที่มีผลแพ้ชนะเรียบร้อยแล้ว จะลงแข่งขันแบบแรลลี่พอยนต์
เกมละ 11 คะแนนเท่านั้นน้องเมย์รัชนก อินทนนท์ (ทีมชิงต่าว) ที่ในเลกแรกสามารถฮึดกลับมาแซงชนะ
เจียง หยาง เจียว (ทีมเหลียวหนิง) มืออันดับ 9 ของโลก จากสโมสรแบดมินตันจังหวัดเหลียวหนิง
ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 55 ที่ผ่านมา ไปอย่างสนุก 2-1 เกม 10-21, 21-13, 21-13
แมตช์นี้ยังคงเป็นทางรัชนกที่สามารถย้ำแค้นเอาชนะ เจียง หยาง เจียว ไปได้อีกครั้ง
สามารถฮึดกลับมาแซงชนะไปได้หลังพลาดท่าพ่ายไปก่อนในเกมแรกหวุดหวิด 2-1 เกม 2-11,11-7,11-6
ทำคะแนนให้ทีมชิงต่าว เอาชนะไปได้ขาดลอย 4-0 คู่
          30ก.ย.บินกลับลุ้นแชมป์ปทท.
          “น้องเมย์” เตรียมตัวเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอีกครั้ง โดยจะลงสนามเล่นลีกอาชีพเลกที่ 2
ให้กับสโมสรแบดมินตันชิงต่าวในประเทศจีน ที่มีโปรแกมทั้งหมด 6 แมตช์ด้วยกัน แต่ในครั้งนี้
รัชนกจะลงสนามเพียง 2 แมตช์แรกก่อน คือวันพฤหัสฯ ที่ 27 กันยายน 2555
ทีมชิงต่าวพบกับทีมเหลียวหนิง รัชนก อินทนนท์ (ทีมชิงต่าว) จะพบกับ เจียง หยาง เจียว (ทีมเหลียวหนิง),
แมตช์ที่ 2 เสาร์ที่ 29 กันยายน 2555 ทีมชิงต่าว พบกับ ทีมปักกิ่ง ส่วนแมตช์ที่ 3
ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2555 ทีมชิงต่าวพบกับทีมเจียงซูทางรัชนกนั้นมีโปรแกรมใหญ่ในประเทศ
ที่ต้องลงร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่แห่งปีที่แฟนกีฬาแบดมินตัน
ชาวไทยทั่วประเทศรอคอย การแข่งขัน “เอสซีจี ออล ไทยแลนด์ 2012″ หรือ
การแข่งขันแบดมินตันชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2555 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ชิงเงินรางวัล 450,000 บาท
ซึ่งปีนี้มีกำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 2-7 ตุลาคม 55 ที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ
โดยมีกำหนดการเดินทางกลับไทยวันที่ 30 ก.ย. นี้ จากนั้นก็ต้องเดินทางกลับไปร่วมทีมชิงต่าว
ลงสนามในแมตช์ที่ 4 วันพฤหัสฯ ที่ 11 ตุลาคม 2555 ทีมชิงต่าวพบกับทีมเจ้อเจียง
          ลุ้นแชมป์ยช.โลกสมัยที่4ยัง50-50
          นอกจากนั้นทางรัชนกยังมีโปรแกรมลงสนามที่อาจจะมีผลกระทบต่อการลุ้นแชมป์เยาวชนโลก
สมัยที่ 4 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง 25 ต.ค.-3 พ.ย. 55 อีกด้วย
เนื่องจากในช่วงระยะนั้นทางรัชนกมีโปรแกรมแข่งขันที่ยุโรปทั้งที่ “เดนมาร์ก โอเพ่น ซูเปอร์ซีรีส์ 2012″
ประเทศ เดนมาร์ก ระหว่างวันที่ 16-21 ต.ค. 55 ต่อด้วย “เฟร้นช์ โอเพ่น ซูเปอร์ซีรีส์ 2012″ ประเทศฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 23-28 ต.ค.55 และที่สำคัญการลงสนามเล่นลีกอาชีพที่ รัชนกเล่นให้กับสโมสรแบดมินตันชิงต่าวในประเทศจีน มีโปรแกรมแข่งขันในรอบน็อกเอาต์ 8 ทีม แบบเหย้าเยือน ในวันที่ 1 และ 3 พ.ย. 55 ซึ่งจะทับซ้อนกับโปรแกรมการแข่งขันแชมป์เยาวชนโลก 2012 ที่จะจัดขึ้นที่ เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง 25 ต.ค.-3 พ.ย. 55 พอดี แต่โอกาสที่จะเข้าร่วมแข่งขันเยาวชนโลกที่ญี่ปุ่นยังพอมีอยู่โดยจะต้องขึ้น อยู่กับผลงานของทีมชิงต่าวในเลกที่ 2 ถ้าสามารถทำได้ดีเหมือนในเลกแรกจะสามารถผ่านเข้ารอบเป็นที่ 1 ของกลุ่มซึ่งต้องไปไขว้สายพบกับทีมอันดับ 4 ของอีกกลุ่ม น่าจะเป็นงานที่ไม่ยากของทีม ถึงตอนนั้นก็สามารถเจรจากับทางทีมชิงต่าวที่จะไม่ต้องลงสนามในรอบ 8 ทีม ก็เป็นไปได้ ตอนนี้ทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลงานของทีมชิงต่าวในเลกที่ 2 เป็นสำคัญ โอกาสจึงยังอยู่ที่ 50-50 สำหรับการลุ้นแชมป์เยาวชนโลก สมัยที่ 4
          “ปราโมทย์”ปลาบปลื้มแจกันพระราชทาน
          ความคืบหน้าเกี่ยวกับอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้ายของ ด.ต.ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์
อดีตนักแบดมินตันชายคู่ในระดับตำนาน เหรียญทองซีเกมส์ที่บรูไน เหรียญเงินเอเชียนเกมส์ที่บูชาน
รวมทั้งเคยก้าวขึ้นสู่อันดับ 2 ของโลกมาแล้ว แชมป์ชายคู่ประเทศไทย 11 สมัย ในวัน 45 ปี
หลังจากที่แขวนแร็กเกตจากสนามแข่งขัน แต่ก็ยังคงวนเวียนอยู่ในวงการแบดฯอย่างต่อเนื่อง
ด้วยการทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนนักกีฬาทีมชาติไทย ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่ตึกสมเด็จพระเทพฯ
รพ.รามาฯ ชั้น 7 ห้อง 7214
           ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมายังคงมีผู้คนในวงการแบดมินตันมากมายอาทิ
โค้ชสมพล คูเกษมกิจ, ศักดิ์ระพี ทองสาริ ลูกศิษย์ลูกหาในวงการแบดมินตัน รวมไปถึง
บรรดาผู้ปกครองที่ได้เคยให้ทาง ด.ต.ปราโมทย์ เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาแบดมินตัน
ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจกับ ด.ต.ปราโมทย์ ธีระวิวัฒน์ และครอบครัว
ที่ตึกสมเด็จพระเทพฯ รพ.รามาฯ กันอย่างไม่ขาดสายนอกจากนั้นทาง
พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักฯ ยังได้ส่งแจกันดอกไม้มาให้กำลังใจด้วย

          แต่ที่สร้างขวัญและกำลังใจให้กับทาง ด.ต.ปราโมทย์ มากที่สุดจนหลายๆ คนสังเกตได้จากสีหน้า
ในวันนี้ว่ามีอาการที่สดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก และยังมีรอยยิ้มให้เห็นหลายๆ ครั้งในวันนี้ก็คือ
ได้รับแจกันพระราชทานจากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี
และแจกันประทาน พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยมีผู้แทนพระองค์
นำมามอบเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้าย
          ทางภรรยา คุณณฐมล ธีระวิวัฒน์ กล่าวว่า “ต้องยอมรับว่าทางพี่โมทย์เขามีจิตใจที่เข้มแข็ง
ที่จะต่อสู้กับโรคร้ายอย่างเด็ดเดี่ยวมาก ทั้งๆ ที่แค่ขยับตัวก็จะรู้สึกปวดไปทั้งตัวแล้ว
ในวันแรกฯ ที่เข้ามารักษาตัวที่นี่พี่โมทย์ท้อแท้มาก ไม่อยากทนอยู่ในสภาพนี้ต่อไปแล้ว
เคยพูดกับคนว่ามียาอะไรที่หมอสามารถฉีดเข้าไปแล้วทำให้ตนหลับไปเลยหรือเปล่า
แต่เมื่อทางพี่ๆ สื่อมวลชน ได้นำเสนอเรื่องการเจ็บป่วยออกไป รวมไปถึงพี่ๆ น้องๆ ในวงการ
ได้ช่วยกันกระจายข่าวในสังคมออนไลน์ ทำให้ทางครอบครัวของเรา โดยเฉพาะพี่โมทย์
ได้รู้ว่าทุกๆ คนต่างต้องการที่จะให้สู้กับโรคนี้จนถึงที่สุดกำลังใจที่มีมาอย่างไม่ขาดสาย
มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้พี่โมทย์มีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง ครอบครัวของเราซาบซึ้ง
ในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และ
 พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ที่โปรดเกล้าให้ผู้แทนพระองค์นำแจกันดอกไม้
พระราชทานมามอบเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เราได้เห็นน้ำตาแห่งความดีใจของพี่โมทย์
ที่ไม่บอกก็รู้ว่าดีใจสุดๆ แล้ว ตลอดทั้งวันยังคงมีคนมาเยี่ยมเยืยนพูดคุยตลอดทั้งวัน
          จากนั้นในช่วงเย็นอาการปวดกลับมากำเริบขึ้นอีก มีอาการอ่อนเพลียอย่างเห็น
ได้ชัด รวมไปถึงการให้อาหารทางสายยางที่เครื่องมักจะมีเสียงร้องเตือนตลอด
ต้องให้พยาบาลเข้ามาช่วยบ่อยๆ นอกจากนั้นทางพี่โมทย์ ยังมีอาการแน่นหน้าอกอีกด้วย
ทำให้ต้องเรียกให้แพทย์เข้ามาตรวจอาการว่าเกิดจากสายอาหารที่ให้มีปัญหา หรือว่าพี่โมทย์
มีอาการอื่นๆ โดยหมอต้องเอกซเรย์ดูอาการผิดปกติเพื่อไปวินิจฉัยหาสาเหตุอีกครั้ง
          ก็ต้องขอบคุณทางพยาบาลทุกคนที่คอยช่วยเหลือดูแลเป็นอย่างดี ส่วนการรักษา
หมอก็จะดูตามอาการเท่านั้น แต่ยังคงต้องฉีดมอร์ฟีนแก้ปวดให้เกือบจะทุกๆ 2-3 ชั่วโมง
เลยเหมือนเดิม ตนและครอบครัวของพี่โมทย์ยังยืนยันที่จะไม่ให้ทางหมอใช้วิธีรักษาแบบฉายแสงอีกแล้ว
พี่โมทย์เจ็บมามากพอแล้ว ตนขอเป็นตัวแทนของพี่โมทย์ และครอบครัวทุกๆ คนขอขอบคุณจากใจ
สำหรับทุกๆ กำลังใจ จากทั่วทุกประเทศเลยก็ว่าได้ที่มีมาให้อย่างไม่ขาดสาย”