เกาะติดภูเก็ตเกมส์: กกท.ให้2จังหวัดเป็นเจ้าภาพร่วม

เผยแพร: 02/06/2012 โดย:Web Master

67

สงขลาคุมเข้มสร้างนักกีฬา
นายอาคม นคราวงศ์ ผอ.ศูนย์ กกท.จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่าตอนนี้จังหวัดสงขลาได้เริ่มทำแผนพัฒนากีฬากันใหม่ เพื่อพัฒนานักกีฬาแต่ละชนิดให้มีคุณภาพกันอย่างจริงจัง เนื่องจากที่ผ่านมา สงขลาส่งนักกีฬาเข้าแข่งเยอะ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาเยาวชน หรือกีฬาแห่งชาติ แต่กลับได้เหรียญรางวัลน้อยมาก อย่างกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 27 “อุตรดิตถ์เกมส์” สงขลาคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง, 4 เหรียญเงิน, 6 เหรียญทองแดง ส่วนกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ขอนแก่นเกมส์” สงขลา คว้ามาได้ 3 เหรียญทอง, 5 เหรียญเงิน, 6 เหรียญทองแดง
แต่หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ในจังหวัดก็มีความเห็นตรงกันว่าต่อจากนี้จะมีการสร้างนักกีฬากันใหม่ เช่น คนที่จะไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ หรือกีฬาแห่งชาติ หากเป็นกีฬาที่มีสถิติอย่างน้อยต้องทำเวลาไม่น้อยกว่าอันดับที่ 8 ของการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา ถึงจะมีสิทธิเข้าแข่งขัน ไม่เช่นนั้นพอส่งไปแข่งกัน แล้วได้อันดับ 11 หรือ 12 ก็เสียเวลาเปล่า เพราะตอนนี้สงขลา จะพัฒนานักกีฬาเพื่อไปสู่ความเป็นเลิศ จะต้องพัฒนากันอย่างจริงจังและให้ถูกวิธี นอกจากนี้จะมีการจ้างผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถมาดูแลนักกีฬา พร้อมกับดูสถิติและการพัฒนาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ซึ่งหากทำตามแผนที่วางเอาไว้ภายใน 3 ปี นักกีฬาของสงขลาจะสามารถคว้าเหรียญรางวัลในกีฬาเยาวชนแห่งชาติและกีฬาแห่งชาติได้มากกว่าเดิม รวมทั้งจะก้าวขึ้นไปอยู่ในอันดับแนวหน้าของเมืองไทยด้วย

วิริยาฝันคว้าเหรียญโอลิมปิก
“องุ่น” วิริยา สุวรรณรัตน์ นักยกลูกเหล็กจากจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่สามารถคว้าเหรียญทองใน “ภูเก็ตเกมส์” ในรุ่น 69 กก. หญิง ด้วยการคว้า 3 เหรียญทอง ก็รู้สึกโล่งใจที่ทำหน้าที่ได้อย่างไม่บกพร่อง แม้ว่าก่อนแข่งจะถูกมองว่า ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และสามารถคว้ามาได้ 3 เหรียญทอง แต่พอถึงการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นรายการไหน ก็จะมีความตื่นเต้นเสมอ รวมทั้งก่อนแข่งมีสภาพร่างกายที่อ่อนล้า เพราะเพิ่งจะเสร็จจากการแข่งขันปรีโอลิมปิก ที่ประเทศกัวเตมาลา แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถเรียกน้ำหนักเหล็กได้ตามที่ต้องการ เนื่องจากการแข่งขันที่ผ่านมาก็เรียกน้ำหนักเหล็กได้มากกว่าทุกคน และเชื่อว่าจะคว้าเหรียญทองได้แน่นอน
จอมพลังสาวจากชลบุรี วัย 20 ปี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะศึกษาศาสตร์ เอกพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา และตัวเองเป็นคนจังหวัดพะเยา แต่มาเรียนหนังสือที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ ม.1 อายุ 12-13 ปี ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะเล่นยกน้ำหนักต่อไป และจะขยันฝึกซ้อม เพราะอยากจะคว้าเหรียญในกีฬาโอลิมปิกให้ได้บ้าง และหากเลิกเล่นกีฬายกน้ำหนักก็จะหันไปเป็นโค้ช เพื่อสอนนักกีฬารุ่นใหม่ต่อไป นี่คือความฝันที่คิดเอาไว้

บิ๊กหนุ่มพอใจภาพรวมภูเก็ต
“บิ๊กหนุ่ม” นายกนกพันธุ์ จุลเกษมผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่าหลังจากที่ “ภูเก็ตเกมส์” ได้แข่งขันกันมาจนเกือบจะปิดการชิงชัยอย่างเป็นทางการ ก็ต้องบอกว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ประสบความสำเร็จหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการแข่งขัน เพราะสนามแข่งขันต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ที่มาตรฐาน แม้จะมีเรื่องของฝนที่เป็นอุปสรรคจนมีผลต่อการแข่งขัน และสถิติของนักกีฬาที่ทำได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคุณภาพของเกมออกมาดีทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในการเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปคือ ครั้งที่ 29 ที่จังหวัดมหาสารคาม และครั้งที่ 30 ที่จังหวัดศรีสะเกษคงจะต้องไปเน้นในเรื่องของการแข่งขันในรอบคัดเลือกให้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้จะต้องเริ่มทำตามโลกของกีฬายุคใหม่ ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เช่น คณะกรรมการโอลิมปิกสากล “ไอโอซี” ได้ริเริ่มจัดการแข่งขันยูธโอลิมปิกขึ้นมา และครั้งที่ 1 ก็ผ่านไปแล้ว ดังนั้นประเทศไทยต้องปรับการแข่งขันกีฬาภายในประเทศของตัวเอง เพื่อเป็นฐานให้สมาคมได้คัดเลือกนักกีฬาที่เก่งในแต่ละช่วงอายุไปแข่งขันในมหกรรมกีฬาที่เกิดขึ้นมาใหม่ ไม่เช่นนั้นจะประสบกับปัญหาเหมือนอย่างครั้งแรก ที่หานักกีฬาอายุระหว่าง 12-14 ปี 14-16 ปี ได้ยากลำบาก
ส่วนแนวทางในการแข่งขันครั้ง ต่อ ๆ ไป แม้จะมุ่งเน้นในเรื่องของการคัดนักกีฬาที่เก่งจริงมาชิงชัยในรอบสุดท้าย แต่เรื่องของสปิริต การปลูกฝังเด็ก ๆ ให้เป็นคนที่ยอมรับในเรื่องของกฎ-กติกา-มารยาท ก็ต้องทำกันให้มากกว่าเดิม ต้องรู้จักคำว่าแพ้-ชนะ-อภัย ไม่คดโกงกัน ไม่จ้องทำร้ายคู่แข่ง ไม่โด๊ปยา ซึ่งเหล่านี้ต้องช่วยกันรณรงค์ และทำให้เป็นจริงมากขึ้น เพราะในการแข่งขันครั้งนี้ยังพบว่ามีกีฬาอยู่หลายชนิด เช่น ฟุตบอล พอรู้ตัวว่าตกรอบแล้วก็ไล่เตะคู่แข่ง ใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพไปต่อว่าโค้ชอีกทีม ทำตัวเป็นนักเลง และสร้างความเสื่อมเสียให้จังหวัดตัวเอง ตรงนี้เป็นสิ่งที่แย่มากต้องปรับปรุงกัน

กกท.ไฟเขียวเจ้าภาพร่วม
นายณัฐวุฒิ เรืองเวส ผอ.ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวว่าจังหวัดเล็ก ๆ อยากจะร่วมมือกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ หรือกีฬาแห่งชาติ โดยจะมีเจ้าภาพร่วม 2 จังหวัดนั้น เรื่องนี้สามารถทำได้แต่ก็เป็นสิ่งที่ยาก ซึ่งที่ผ่านมา นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการ กกท. ก็เคยเปิดโอกาสให้ลองทำกัน อย่างไรก็ตาม พอจะลงไปในรายละเอียดลึก ๆ ก็ต้องพบกับความเป็นจริงว่า 2 จังหวัดที่จะร่วมมือกัน ฐานการเมืองของแต่ละจังหวัดอยู่กันคนละพรรคหรือเปล่า หากเป็นพรรคเดียวกันยังพอจะพูดต่อไปอีกขั้นได้ว่า
หากร่วมมือกันจะใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ จะจัดกันคนละกี่ชนิด รายได้ที่เข้ามาจะทำอย่างไร มีแผนที่จะทำงานร่วมกันแบบไหน จะพัฒนานักกีฬาของจังหวัดต่อไปเช่นไร นอกจากนี้หากการเมืองเกิดเปลี่ยนขั้ว จะส่งผลต่อการเป็นเจ้าภาพร่วมหรือไม่ เพราะอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ลำพังแค่ให้จังหวัดเดียวเป็นเจ้าภาพ หากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกิดขัดแย้งกัน ก็ส่งผลต่อการจัดการแข่งขัน ส่งผลต่อการเตรียมนักกีฬาทันที สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่หากจังหวัด เล็ก ๆ 2 แห่ง ได้ร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ และทำให้เกิดความสามัคคีสามารถจัดงานได้ดี ก็อาจจะเป็นก้าวแรกในการจัดกีฬารูปแบบใหม่ของเมืองไทยก็ได้.