ทีมจอมพลังไทยจะเดินทางเข้าสู่การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 27 วันที่ 11-22 ธันวาคมนี้ ในฐานะทีมอันดับ 1 รวมทั้งสิ้น 13 คน แบ่งเป็นหญิง 6 คน ได้แก่ “ฟ้า” พนิดา คำศรี รุ่น 48 กก., สุกัญญา ศรีสุราช รุ่น 58 กก., “ปุ๊กลุก” รัตติกาล กุลน้อย รุ่น 58 กก., “แต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ, วิริยา สุวรรณรัตน์ รุ่น 69 กก. และบุญณฑีร์ กล้ากสิกิจ รุ่น 69 กก. ขณะที่ทีมชาย 7 คน ได้แก่ ธีระศักดิ์ ศรีพัฒน์ รุ่น 56 กก., วิทูรย์ มิ่งมูล รุ่น 56 กก., ไตรรัตน์ บุญสุข รุ่น 69 กก., พรชัย ลบศรี รุ่น 77 กก., สุชาติ สมบูรณ์ รุ่น 77 กก., พิทยา ตีบนอก รุ่น 85 กก. และศรัท สุ่มประดิษฐ รุ่น 94 กก. โดยมี พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็นผู้จัดการทีม, นายรชต ยอดบางเตย เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม ขณะที่ผู้ฝึกสอน ได้แก่ ร้อยเอกหญิง อภิญญา ดัชถุยาวัตร, จ่าสิบตรี สุรพงษ์ วัฒนากสิกรรม, นายหลิว หนิง และสิบเอก นพดล วันหวัง, นางภัทรพร สิทธิเลิศพิศาล เป็นนักกายภาพบำบัด
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทีมจอมพลังไทยชุดนี้ ใช้นักกีฬาผสมผสานระหว่างชุดใหญ่และดาวรุ่ง เนื่องจากซีเกมส์ครั้งนี้ ชิงชัยทั้งหมด 11 เหรียญทอง กำหนดให้แต่ละชาติส่งได้ 9 รุ่น เป็นผู้ชาย 5 รุ่น และผู้หญิง 4 รุ่น
“ทีมหญิงนั้นแต่ละคนถือว่ามีฝีมือและประสบการณ์สูง หากจะบอกว่าสามารถคว้าเหรียญทองได้ทุกคนก็คงจะใช่ ส่วนทีมชายมีดาวรุ่งอยู่หลายคน ซึ่งจากการเทียบสถิติกับนักกีฬาชาติอื่นนั้น น่าจะมีอย่างน้อย 4 เหรียญทอง”
สำหรับกรณีที่ไทยไม่ใช้ชุดใหญ่แบบเต็มพิกัด “เสธ.ยอด” บอกว่า หากประเทศไทยส่งนักกีฬาชุดใหญ่ลงชิงชัยเพื่อหวังกวาดเหรียญรางวัลอาจทำให้ประเทศอื่นๆไม่อยากจะส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน ถ้าเป็นเช่นนั้นจะทำให้วงการยกน้ำหนักในอาเซียนไม่มีการพัฒนา จึงต้องเปิดโอกาสให้ประเทศอื่นๆ ได้แสดงความสามารถและประสบความสำเร็จด้วยอย่างไรก็ตาม ทีมจอมพลังไทยชุดนี้น่าจับตามองไปที่ “น้องแต้ว” พิมศิริ ศิริแก้ว จอมพลังฮีโร่เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2012 หลังจากประสบความสำเร็จใน “ลอนดอนเกมส์” ก็ดูเหมือนว่าสาวหล่อของเรายังไม่สามารถสร้างผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดยล่าสุดในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก ครั้งที่ 27 ที่เมืองคาซาน “คาซาน 2013″ ที่ประเทศรัสเซีย เมื่อเดือนกรกฎาคม พิมศิริ ลงแข่งขันยกน้ำหนัก รุ่น 58 กก.หญิง ได้แค่อันดับ 4 เท่านั้น
สถิติที่ “น้องแต้ว” ทำได้ก็คือ สแนทช์ได้ 95 กก. คลีนแอนด์เจิร์ก 121 กก. รวม 216 กก. ในขณะที่โอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ “น้องแต้ว” คว้าเหรียญเงินมาครองนั้น คือ สแนทช์ได้ 100 กก. คลีนแอนด์เจิร์ก 136 กก. รวม 236 กก. ก่อนที่ “น้องแต้ว” จะต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อศอกและหัวไหล่ซ้าย แม้จะไม่รุนแรงมากนัก แต่ “น้องแต้ว” ก็ต้องถอนตัวจากการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่โปแลนด์ในเดือนตุลาคม
ครั้งนี้ “น้องแต้ว” กลับมาอีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยมที่จะคว้าเหรียญทองซีเกมส์อีกครั้งหลังจากคว้าเหรียญทองมาแล้วในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่อินโดนีเซีย ก่อนจะมุ่งหมายไปที่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่อินชอน เกาหลีใต้ ในปี 2014 มหกรรมกีฬาชนิดเดียวที่เธอยังไม่เคยสัมผัสเหรียญ
“แต้วไม่เคยรู้สึกกดดันกับการที่เคยได้เหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ แล้วต้องมาแข่งขันในระดับซีเกมส์ นักกีฬามีหน้าที่แข่งก็แข่งไป ไม่ว่าเป็นรายการใหญ่หรือเล็ก โดยในซีเกมส์ครั้งนี้ ถ้ายกตามสถิติของตัวเองก็ไม่มีทางพลาดเหรียญทอง”
ทีมจอมพลังไทยกับเป้าหมาย 4 เหรียญทองนั้น เรียกได้ว่า “ขนมหวาน” ซึ่งพวกเขาและเธออาจจะทำได้มากกว่านั้นด้วย
