นักกีฬาชาย 10 คน (ตัวจริง 8 คน, ตัวสำรอง 2 คน) ดังนี้ อรรถพล แดงจันทึก รุ่น 69 กก., สมผล แก้วเกิด รุ่น 77 กก., เอกชัย ยีรัมย์ รุ่น 77 กก., พิทยา ตีบนอก รุ่น 85 กก., ณพล หัสดิน รุ่น 85 กก., สุทธิพร วัฒนากสิกรรม รุ่น 94 กก., ขวัญชัย นุชพุ่ม รุ่น 105 กก., สุรพงษ์ วัฒนากสิกรรม รุ่นเกิน 105 กก. และตัวสำรอง 2 คน ได้แก่ธนศักดิ์ พันเอม รุ่น 56 กก. และพงศ์พิสุทธิ์ นาภูมิ รุ่น 62 กก. โดยนักกีฬาจะเดินทางไปประเทศอินโดนีเซียในวันที่ 15 พ.ย. และเดินทางกลับในวันที่ 22 พ.ย. 54
สำหรับผู้ฝึกสอน 7 คน ได้แก่ หาน ชางเหมย (โค้ชชาวจีน), ว่าที่ร้อยตรีศักดิ์ชัย ธิตะจารี, จ่าโทหญิงสายพิณ เดชแสง, นายหลิว หนิง (โค้ชชาวจีน), นายนพดล วันหวัง, นายเฉลิมพล มวยมั่น และนายสมรรถชัย จำนงค์จิต โดยมี พ.อ.โชติอนันต์ปรีชา ทรัพย์หิรัญ เป็นผู้จัดการทีม และนายรชต ยอดบางเตย เป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม นอกจากนี้ยังมีผู้ตัดสินจากไทย 3 คน ได้แก่ นายสมโภชน์ ยิ้มพลอย, ร.อ.บัณฑิต ทองสะอาด และ “น้องไก่” ร.ท.หญิง ปวีณา ทองสุก เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ปี ค.ศ. 2004
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายของจอมพลังไทยนั้นตนมั่นใจว่าเราจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน อย่างไรก็ตาม หากต้องการยกระดับมาตรฐานวงการยกน้ำหนักในย่านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ควรจะต้องเอาใจช่วยประเทศอื่น ๆ ให้ทำผลงานให้ดีเช่นกันเพราะหากทีมไทยแข็งแกร่งอยู่ทีมเดียวในครั้งต่อไปคง ไม่มีประเทศใดอยากจะลงแข่งขันด้วย ซึ่งจะทำให้การพัฒนากีฬายกเหล็กในย่านอาเซียนหยุดชะงักลงไปได้นั่นเอง.
