เช็กโอกาสไทยชิงทอง สังเวียน “เนย์ปิดอว์เกมส์”

เผยแพร: 21/11/2013 โดย:Web Master

13849206101384920620l

 

              ก่อนการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 บนผืนแผ่นดินประเทศเมียนมาร์
          จะรูดม่านเปิดฉากสังเวียนศึกชิงเจ้าเหรียญทองกันในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
          เราลองมาเช็กโอกาสและความเป็นไปได้ในการกระชากเหรียญรางวัลจากการแข่งขันครั้งนี้ของบรรดาทัพนักกีฬาทีมชาติไทยสักเล็กน้อยว่า
          มีชนิดกีฬาใดบ้างที่น่าจะได้ขึ้นไปยืนบนโพเดียมรางวัล
          พร้อมร้องเพลงชาติไทยพาธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสา
          เริ่มต้นจาก “ฟุตบอลชาย”
          กีฬาชนิดแรกที่จะทำการแข่งขันเปิดสนามก่อนใครเพื่อนในวันที่ 1 ธันวาคม  โดยซีเกมส์ครั้งนี้
          ทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ภายใต้การกุมบังเหียนของอดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกา “ซิโก้-เกียรติศักดิ์
          เสนาเมือง” จับฉลากไปอยู่กลุ่มบี ร่วมกับอินโดนีเซีย, เมียนมาร์, ติมอร์-เลสเต และกัมพูชา
          สถานการณ์ความพร้อมของทัพช้างศึกดูจะไม่สมบูรณ์อย่างที่คิด
          เพราะล่าสุดมีนักเตะบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมเก็บตัวมากถึง 5 ราย ไม่ว่าจะเป็นกัมพล ปฐมอรรฆย์กุล, ภิญโญ
          อินพินิจ, ชนินทร์  แซ่เอี๊ยะ, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และศราวุฒิ มาสุข
          อย่างไรก็ตาม
          ยังมีข่าวดีให้ซิโก้และกองเชียร์ทีมชาติไทยใจชื้นขึ้นบ้าง เมื่อล่าสุดได้กำลังหลักจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
          มาร่วมฝึกซ้อมกันอย่างครบครันแล้ว ทั้งชาริล ชัปปุยส์, ธีราทร บุญมาทัน, อดิศักดิ์ ไกรษร และชิติพัทธ์
          แทนกลาง ก่อนที่จะได้ชนาธิป สรงกระสินธุ์ เดินทางมาสมทบ
          หลังจบการทดสอบฝีเท้ากับชิมิสุ
          เอส-พัลส์ ที่ญี่ปุ่น
          เรื่องความคาดหวัง แม้ซิโก้จะยอมรับว่าตัวเองหนักใจกับคู่แข่งพอสมควร
          แต่กุนซือช้างศึกชุดซีเกมส์ก็แสดงความมั่นใจอย่างชัดเจนว่า เป้าหมายคือการทวงแชมป์กลับมาให้ได้
          ดังนั้น ลูกทีมของเขาจะต้องชนะทุกทีมที่เจอ
          ส่วนทางด้านของ “วอลเลย์บอล”
          แน่นอนว่าทางสมาคมได้ออกมาประกาศแล้วว่า ตั้งเป้ากวาดเหรียญทองเรียบทั้งทีมหญิงและทีมชาย
          ซึ่งโอกาสสมหวังของสมาคมวอลเลย์บอลฯ ดูแล้วมีอยู่สูงทีเดียว แถมยังค่อนข้างแบเบอร์เสียด้วยซ้ำ
          หากเล่นกันอย่างไม่ประมาท
          โดยเฉพาะทีมหญิงที่จะได้ผู้เล่นตัวหลักชุดใหญ่ที่มีดีกรีเป็นถึงแชมป์เอเชียอย่างนุศรา ต้อมคำ, วิลาวัณย์
          อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์ และวรรณา บัวแก้ว
          กลับมารวมตัวกันครบครัน
          ผิดกับทีมชาติที่น่าเป็นห่วงมากสักหน่อย เพราะสราญจิต เจริญสุข
          มือเซตตัวเก่งของทีมมีอาการบาดเจ็บหัวเข่า
          จนอาจจะพลาดการลงสนามในนัดแรกไป
          แต่เชื่อว่าโอกาสคว้าเหรียญทองก็ยังไม่หนีหายไปไหน เพราะสมาชิกตัวหลักคนอื่น ๆ
          ยังอยู่กันครบ
          ขณะที่ “สมาคมกีฬาบาสเกตบอลฯ” ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 1 เหรียญทองของทีมหญิง
          และเหรียญเงินของทีมชาย
          “เฮียต่าย-นิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร”
          ผู้จัดการทีมบาสเกตบอลทีมชาติไทย
          ยอมรับว่า ในส่วนของทีมชายยังคงมีการแข่งขันที่หนักอยู่เหมือนเดิมกับคู่แข่งอย่างฟิลิปปินส์
          ส่วนทีมหญิงแม้จะหนักไม่แพ้กัน แต่ด้วยความที่แบกฐานะแชมป์เก่าลงสนามมาด้วย
          ยังไงก็คงต้องคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้อีกครั้ง
          สำหรับกีฬาสองล้ออย่าง “จักรยาน”
          ที่ปีนี้มีนักกีฬาทีมชาติไทยมากถึง 26 คน ได้ตั้งความหวังเอาไว้อยู่ที่ 3 เหรียญทอง จากจันทร์เพ็ง
          นนทะสิน เจ้าของแชมป์เมื่อ 2 ปีก่อน ในประเภทไทม์ไทรอัลหญิง และวิภาวี ดีคาบาเลส ประเภทดาวน์ฮิลหญิง
          กับโรดเรซ
          ในส่วนของกีฬา “ยกน้ำหนัก” ปีนี้ดูเหมือนว่าจะหวังเอาไว้ไม่มากนัก
          ทั้งที่ซีเกมส์เมื่อ 2 ปีก่อนที่อินโดนีเซีย ทีมยกเหล็กทีมชาติไทยเคยคว้ามาได้ถึง 9 เหรียญทอง
          ซึ่งเนย์ปิดอว์เกมส์ได้ตั้งเป้าอยู่ที่ 4 เหรียญทอง จากทั้งหมด 9 รุ่นที่ส่งลงชิงชัย
          ที่น่าสนใจคือซีเกมส์ครั้งนี้มีชื่อของ “แต้ว-พิมศิริ ศิริแก้ว” เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2012
          “พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์”
          ผู้จัดการทีมยกน้ำหนักไทย ให้เหตุผลที่ต้องมักน้อยว่า
          มาจากการกำหนดจากเจ้าภาพที่ห้ามไม่ให้แต่ละชาติส่งนักกีฬาลงแข่งเกิน 9
          รุ่น
          ที่ไม่หวังคงเป็นไปไม่ได้ นั่นคือ “เซปักตะกร้อ”
          เพราะทัพนักกีฬาทั้งหญิงและชายต่างถูกยกให้เป็น “เบอร์หนึ่ง” มาอยู่เสมอ ทำให้ปีนี้ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 6
          เหรียญทอง เท่ากับ “มวยสากลสมัครเล่น” และ “ชินลง” กีฬาโบราณท้องถิ่นของเมียนมาร์
          ที่มีลักษณะการเล่นคล้ายคลึงกับตะกร้อวงในบ้านเรา
          รองลงมาเห็นจะเป็น “มวย” หรือ “มวยไทย
          (ตามความเข้าใจง่าย ๆ)” กีฬาที่มีปัญหายืดเยื้อมานานกว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะส่งนักกีฬาลงชิงชัย
          ประกาศเอาไว้ว่าจะต้องคว้าเหรียญทองกลับมาจากเนย์ปิดอว์ให้ได้ 5 เหรียญ เช่นเดียวกับ “สมาคมหมากรุกฯ”
          ที่ตั้งเป้าเอาไว้ 5 เหรียญทอง เท่ากัน
          เมื่อนำจำนวนเหรียญข้างต้นมาบวกรวมเข้ากับอีก 3
          สมาคมกีฬาที่ประกาศความมั่นใจออกมาแล้วอย่าง “มวยปล้ำ” 2 เหรียญทอง, “ยิงธนู” 2 เหรียญทอง และ “ยิงปืน”
          1 เหรียญทอง
          จะเท่ากับว่าซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ประเทศไทยมีแนวโน้วแบเบอร์เหรียญทองพื้นฐานอยู่ราว
          ๆ 44 เหรียญ
          เป็นอย่างต่ำ
          แน่นอนว่าจำนวนนี้คงไม่ใช่จำนวนเหรียญทองทั้งหมดที่ทีมชาติไทยจะขนกลับมาฝากจากเนย์ปิดอว์เกมส์
          เพราะด้วยระดับความสามารถและความพยายามที่น่ายกย่องของนักกีฬาทีมชาติไทย น่าจะค่อย ๆ
          ทยอยเก็บเพิ่มได้ไม่ยากเย็น
          หากไม่เกิดตกม้าตายเพราะอุปสรรคจากต่างแดนเสียก่อน