หวิดช็อกแบดฯสาววูบกลางคอร์ตเชียงใหม่เกมส์ปิดฉากวันนี้

เผยแพร: 19/12/2012 โดย:Web Master

การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 41 “เชียงใหม่เกมส์” ระหว่างวันที่ 9-19 ธ.ค. 55 ณ จ.เชียงใหม่ก่อนจะเข้าสู่วันสุดท้าย กทม. ยังคงมีลุ้นเดินหน้าเก็บเหรียญทองทะลุร้อย เพื่อรักษาตำแหน่งเจ้ากีฬาแห่งชาติเป็นสมัยที่ 38 โดยการชิงชัยในวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมามีให้ลุ้นมากถึง 79 เหรียญทอง

          เริ่มกันที่แบดมินตัน ชิง 4 เหรียญทอง ที่โรงยิมฯ 1 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ พบกับ ธมลวรรณ ภู่ประดับศิลป์ จากนนทบุรี เกมแรกแม้ว่าสกอร์จะออกมาค่อนข้างขาด แต่เล่นกันได้สูสี โดยณราวดีได้เปรียบเสียงเชียร์เอาชนะไปได้ก่อน 21-14
          จากนั้นในเกมที่สอง ธมลวรรณเล่นได้ดีขึ้นเหนียวแน่นในเกมรับ และมีโอกาสตัดหยอดหน้าเนตบ่อยมากขึ้น ทำให้ณราวดีต้องออกแรงเหนื่อยมากกว่าเกมแรก ซึ่งเป็นสาวเมืองนนท์ที่กลับมาเอาชนะได้บ้าง 21-10 ต้องตัดสินกันในเกมที่สาม
          ธมลวรรณเริ่มเค้นฟอร์มเก่งของตนเองออกมาทำแต้มนำ3-2 ก่อนที่จะโยกซ้าย-ขวา โยนหลังสลับตัดหยอดให้ณาวดีวิ่งรองลูกและแก้ไข ก่อนที่จะโดนธมลวรรณตบลงไปเป็นสกอร์ 4-2 อย่างไรก็ตาม เกมได้ชะงักไปร่วมครึ่งชั่วมโง เมื่อ ณราวดี ดับทุกข์ ความหวังเหรียญทองของเจ้าภาพเกิดอาการหายใจไม่ทัน แน่นหน้าอกทำให้ต้องหยุดการแข่งขันพร้อมกับปฐมพยาบาลด้วยการให้ออกซิเจนใน สนามแข่งขัน ผ่านไป 10 เจ้าตัวสามารถลุกขึ้นมานั่ง และตัดสินใจเล่นต่อหลังจากอาการดีขึ้น ทว่าธมลวรรณยังใช้แท็กติกเดิมด้วยการวางหยอดหน้าเนตและโยนหลังให้คู่แข่ง วิ่งรับ กระทั่งสกอร์ของธมลวรรณนำห่าง 11-7 ระหว่งพักเบรกสลับฝั่งณราวดีแสดงอาการหายใจไม่ทันพร้อมกับหยุดเล่นมือค้ำเอว และก้มหน้า ก่อนที่จะปรึกษากับผู้ฝึกสอนตัดสินใจไม่แข่งขันต่อ เนื่องจากไม่ไหวและเกรงว่าอาการจะหนักขึ้น เจ้าตัวจึงขอยอมแพ้ พร้อมกับยกมือไหว้ขอโทษชาวเชียงใหม่ที่ให้กำลังใจมาตลอดทั้งสองเกม ส่งผลให้ ธมลวรรณ ภู่ประดับศิลป์ จากนนทบุรี ชนะแบบไม่จบแมตช์ 2-1 สกอร์ 14-21, 21-14 และ 11-7
          เผยไม่ได้กดดันแต่กลัวอาการหนัก
          หลังการแข่งขันจบลง ณราวดี ขนไก่สาวเขียงใหม่วัย 16 ปี ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าตนรู้สึกแน่นหน้าอกและหายใจไม่ออก ไม่ใช่เพราะรู้สึกกดดันแต่อย่างใด แต่อาการนี้เคยเกิดขึ้นกับตนเองมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ก็ไม่หนักเท่านี้ ซึ่งหากฝืนต่อไปกลัวว่าจะไม่ไหว จึงตัดสินใจยอมแพ้ อย่างไรก็ตาม ตนยังเชื่อว่าหากไม่เกิดอาการดังกล่าว จะสามารถกลับมาเอาชนะคู่แข่งได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเกมสูสีและได้เสียงเชียร์จากชาวเชียงใหม่อย่างล้นหลาม ทั้งนี้ต้องรักษาสุขภาพตัวเองก่อน เพราะอายุยังน้อยมีเวลาที่จะกลับมาเล่นอีกนาน
          ส่วนผลการแข่งขันในประเภทชายเดี่ยว ปัณณวิชญ์ ทองน่วม จากเชียงใหม่ เอาชนะ รชต จันดาวรรณ จากนนทบุรี 2-0 (21-13, 21-19), ชายคู่ สมัชชา โตวรรณเกษม/กฤษฎ์ ชลประเสริฐสุข จาก กทม. ชนะ ปวริศร์ สุภาศรี/อธิพงศ์ กิจจานนท์ จากเชียงใหม่ 2-0 (21-8, 21-19) ด้านหญิงคู่ ภูเก็ตทะลุเข้าไปชิงกันเองปรากฎว่าคู่ของ พิจิตรจันทร์ หวังไพบูลย์กิจ/ภัทรภร จินดาพล ชนะ อาทิมา เสรีธรรมรักษ์/ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม 2-1 (22-20, 13-21, 21-19)
          ชลบุรีเจ๋งโกย4ทองมวยสากล
          มวยสากลสมัครเล่น ชิง 9 เหรียญทอง ที่เวทีมวยชั่วคราว สนามบาสเกตบอล สพล.วิทยาเขตเชียงใหม่ พินเวต ชาย น้ำหนักเกิน 42 กก. แต่ไม่เกิน 46 กก. ทอง วิทธิกร ขันคำ (นครสวรรค์) เงิน วุฒิชัย ยุระชัย (ศรีสะเกษ) ทองแดง ปฏิพล อุปนันท์ (ลำปาง), ธนวัช เขียวพันธ์ (ชลบุรี), ไลต์ฟลายเวต ชาย น้ำหนักเกิน 46 กก. แต่ไม่เกิน 49 กก. ทอง ธนากร ดวงบุปผา (อุบลราชธานี) เงิน ศาสตรา ทาแน่น (ชลบุรี) ทองแดง เกียรติศักดิ์ กลิ่นจิตโต (นครสวรรค์), พีรวัฒน์ พลเยี่ยม (นครปฐม), ฟลายเวต ชาย น้ำหนักเกิน 49 กก. แต่ไม่เกิน 52 กก. ทอง อุทิต มังกา (เพชรบูรณ์) เงิน ณัฐพล ศรีโกศล (ศรีสะเกษ) ทองแดง อาทิตย์ ระเริงแม่เมย (แม่ฮ่องสอน), สุทธิเกียรติ หนูวัน (พัทลุง), แบนตั้มเวต ชาย น้ำหนัก เกิน 52 กก. แต่ไม่เกิน 56 กก ทอง นฤเบศร์ แสนกล้า (ชลบุรี) เงิน พงศกร ชอบรัมย์ (สุรินทร์) ทองแดง พัดยศ เกียรติเจริญศิริ (ศรีสะเกษ), พฤหัส นาเถิน (ตาก), ไลท์เวต ชาย น้ำหนักเกิน 56 กก. แต่ไม่เกิน 60 กก. ทอง ศรายุทธ คงโสภา (นครปฐม) เงิน อภิเชษฐ์ เพชรมณี (อุบลราชธานี) ทองแดง อภิชาติ กูลศรี (กทม.), จักรพงษ์ เลแก้ว (อ่างทอง), ไลต์ เวลเตอร์เวต ชาย น้ำหนักเกิน 60 กก. แต่ไม่เกิน 64 กก. ทอง เฉลิม มีสันเทียะ (ชลบุรี) เงิน บรรจง สินศิริ (ชลบุรี) ทองแดง เมธี นาเมือง (ประจวบคีรีขันธ์), เอกลักษณ์ เนียมบุญ (ตรัง), เวลเตอร์เวต ชาย เกิน 64 กก. ไม่เกิน 69 กก. ทอง อิทธิพล อุ่นเสือ (ปทุมธานี) เงิน เฉลิมเกียรติ ชนะ (ลพบุรี) ทองแดง สันติ เจ๊ะอะหลี (ชลบุรี), ศุภมงคล พงษ์พีระ (อุบลราชธานี), มิดเดิลเวต ชาย น้ำหนักเกิน 69 กก. แต่ไม่เกิน 75 กก. ทอง พัฒนพงศ์ รักษาผล (ชลบุรี) เงิน พงษ์พัฒน์ สาภักดี (สุพรรณบุรี) ทองแดง ประพันธ์ พันธ์บุปผา (ศรีสะเกษ), สหรัฐ เหล่าเภา (อุบลราชธานี), ไลต์เฮฟวี่เวต ชาย น้ำหนักเกิน 75 กก. แต่ไม่เกิน 81 กก. ทอง อนุวัช ถองกระโทก (ชลบุรี) เงิน ศราวุธ โนนทชัย (ชัยภูมิ) ทองแดง จักรพงศ์ สุมารุ (ชัยภูมิ), สุวัฒน์ คงจุ้ย (พัทลุง)
          ราชบุรีแบ่งทองขอนแก่นปิดบริดจ์
          บริดจ์ ชิง 2 เหรียญทอง ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 5 มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ประเภทคู่ทั่วไป ทอง พิสิฐ จาตุรแสงไพโรจน์/เอกภัทร ภัทรธำรง (ราชบุรี) เงิน ธีรศักดิ์ จิตต์งามกุศล/กฤษดายุทธ์ เปล่งทรัพย์ (ปทุมธานี) ทองแดง วิทยา วิริยะมนต์ชัย/ภัทร์นฤน กิจการ (ปทุมธานี), คู่หญิง ทอง ภัทราภรณ์ สุทธิสาร/ฉัตรสุดา มนัส (ขอนแก่น) เงิน มัณฑณี ใหญ่สว่าง/จุฬาภรณ์ นำชัยศิริ (กทม.) ทองแดง กนกพร เจนบรรจง/ภาวิณี สิทธิเจริญสวัสดิ์ (ปทุมธานี)
          ฮือฮา”บัวขาว”โผล่มอบเหรียญรางวัล
          ขณะที่ “เชียงใหม่เกมส์” นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้ชมชาวเชียงใหม่ มีโอกาสได้สัมผัสกับ “ดำดอทคอม” หรือ บัวขาว ป.ประมุข นักมวยไทยไฟต์ชื่อดังระดับโลกของไทย ที่ได้เดินทางมาร่วมชมการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น, มวยไทย, ยกน้ำหนัก และกีฬาอื่นๆ ในเมืองเชียงใหม่ เพื่อให้กำลังใจนักกีฬา โดยได้รับเกียรติจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันให้เป็นผู้มอบเหรียญรางวัลให้ กับนักกีฬา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักกีฬาเยาวชนเป็นแบบอย่างสู่ความสำเร็จสร้างชื่อ เสียงให้กับประเทศไทย ขณะเดียวกันบัวขาวยังมีโปรแกรมที่จะเดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ และครูบาศรีวิชัยในวันรุ่งขึ้นอีกด้วย
          สมุทรสงครามไร้เหรียญกีฬาชาติ
          ขณะที่ตารางเหรียญทอง ทัพนักกีฬาจากเมืองกรุง มีโอกาสรักษาแชมป์เป็นสมัยที่ 38 ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ขณะเดียวกันสมุทรสงครามหมดลุ้นในการคว้าเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาแห่ง ชาติ ครั้งที่ 41 “เชียงใหม่เกมส์” เป็นที่แน่นอนแล้ว โดยจะต้องกลับบ้ามือเปล่าหลังจากผ่านพ้นไป 10 วันยังไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดๆ ซึ่งสมุทรสงคราม ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งนี้ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 9 คน และเจ้าหน้าที่ 4 คน ดังนี้ กรีฑา 5 คน/ผู้ฝึกสอน 4 คน, ยิงปืน 3 คน/ผู้ฝึกสอน 1 คน และเทนนิส 1 คน/ผู้ฝึกสอน 1 คน อย่างไรก็ตาม นักกีฬาเหล่านี้ได้แข่งขันเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา สมุทรสงครามทำผลงานดีที่สุดด้วยการคว้า 1 เหรียญเงิน กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 40 “ขอนแก่นเกมส์” เพียงเท่านั้น
          “บิ๊กหนุ่ม”ติงเชียงใหม่เกมส์ไร้คนดู
          “บิ๊กหนุ่ม” กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมของการแข่งขัน “เชียงใหม่เกมส์” ถือว่าสอบผ่าน ตามเป้า 3 มิติ ที่วางเอาไว้ ได้แก่ 1. การพัฒนาของนักกีฬามีนักกีฬาทำลายสถิติเป็นจำนวนมาก ทีมชาติสามารถทำผลงานได้ดีกว่าเดิม กีฬาประเภททีมสูสีกว่าที่ผ่านมา 2. การจัดการแข่งขันมีปัญหาให้แก้ไขน้อยมาก 3. สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการจัดการแข่งขัน ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอาจจะไม่ชัดเจนเหมือนกับจังหวัด อื่นอย่างไรก็ตาม กิจกรรมที่เกิดขึ้นในเชียงใหม่ในเชิงท่องเที่ยว จะให้ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ชมในสนามที่แต่ละสนามมีผู้ชมน้อยกว่าจังหวัด อื่นๆ ที่ผ่านมา
          ตัวเต็งไม่พลิกคว้าแชมป์เทนนิส
          เทนนิส ที่สนามเทนนิส สนามกีฬาสมโภช เชียงใหม่ 700 ปี ชิง 3 ทอง ประเภทชายเดี่ยว ณัฐนนท์ กัจฉปานันท์ ดาวรุ่งทีมชาติจากสกลนคร ในฐานะมือวางอันดับ 1 ของรายการ อวดฟอร์มเก๋าเอาชนะ กฤติน โกยกุล จากพังงา สบาย 2-0 (6-4, 6-1) ผงาดคว้าแชมป์ไปตามความคาดหมาย ส่วนเหรียญทองแดง ชญานนท์ แก้วสุทอ (สระบุรี) และ กฤตบุญ พราหมณีย์ (สกลนคร)
          หญิงเดี่ยว แคทเธอรีน พรยุพา เวสน์บุรี นักหวดเยาวชนหญิงทีมชาติไทยจากนนทบุรี ตัวเต็งไม่พลิกเอาชนะ บุษรินทร์ รักแต่งาม แชมป์เยาวชนแห่งชาติปีที่แล้วจากจังหวัดภูเก็ต 2-0 (6-2, 6-4), ทองแดง ชมภู่ทิพย์ จันดาเขต (นนทบุรี) และ ธมจันทร์ มอมขุนทด (นครราชสีมา)
          คู่ผสม ญาดา วสุพงค์ไชย / ธารา ตัณฑสุวรรณเลิศ (เชียงใหม่) ชนะ ธนาสันต์ อิศราภรณ์ / เกวลิน สุขรัตนปรีชา (พิษณุโลก) 2-1 (7-6, 4-6, 10-8), ทองแดง บุษรินทร์ รักแต่งาม / ภวพล ลิ่มสกุล (ภูเก็ต) และ ชนิกานต์ ศิลกุล / ชนินทร ศีลกุล (นครราชสีมา)
          กทม. กวาดเรียบซอฟท์เทนนิส
          ซอฟท์เทนนิส ที่สนามเทนนิส สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี วันสุดท้าย ชิง 5 ทอง ผลปรากฏว่า นักกีฬาจากกรุงเทพมหานคร กวาดเรียบทั้ง 5 เหรียญทอง โดยบุคคลชาย สรเชษฐ์ อวยพร (กทม.) ชนะ วรณัน รัฐพบกรภัค (กทม.) 4-1 (7-4, 4-0, 0-4, 5-3, 4-2), ทองแดง ณธพล ทองธนภัทร (อุบลราชธานี) และ ธีรภัทร สุจริตพลี (นครราชสีมา)
          บุคคลหญิง ปาริชาติ เจริญสุขพลอยผล (กทม.), เงิน ณุวีร์ เกิดสมบูรณ์ (กทม.), ทองแดง พิชชากร ก้านกนก (ภูเก็ต) และ กนกพร พรหมรักษ์ (ภูเก็ต), ชายคู่ เฉลิมศักดิ์ แสนเสน่ห์ / ปองพล คำสมาน (กทม.), เงิน ธนฤทธิ์ สุระรักษ์ / วรณัน รัฐพบกรภัค (กทม.), ทองแดง สกรรจ์ ธารสิริโรจน์ / อิทธิ ธารสิโรโรจน์ (ภูเก็ต) และ พีร์ มีสุข / วุทธิ รักแต่งาม (เชียงใหม่)
          หญิงคู่ ณุวีร์ เกิดสมบูรณ์ / สาวิตรี นารี (กทม.), เงิน พรรณชนก ขุนพิทักษ์ / ธัชชา วิทย์วิโรจน์ (กทม.), ทองแดง กรกนก ตีระกา / นัทจนันท์ ชูจิตร (สุราษฎร์ธานี) และ วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล / พิชชากร ก้านกนก (ภูเก็ต), คู่ผสม ปาริชาติ เจริญสุขพลอยผล / สรเชษฐ์ อวยพร (กทม.), เงิน ธนฤทธิ์ สุระรักษ์ / สาวิตรี นารี (กทม.), ทองแดง สกรรจ์ ธารสิริโรจน์ / พิชชากร ก้านนก (ภูเก็ต) และ อิทธิ ธารสิโรโรจน์ / วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล (ภูเก็ต)
          จักรยานวันสุดท้ายทองกระจาย
          จักรยาน ที่เวโลโดรม สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี วันสุดท้าย ชิงชัย 6 เหรียญทอง ประเภทลู่ พอยท์เรส ชาย (30 กม.) ทอง รัฐภพ สุขกาย (เชียงราย), เงิน วิสุทธิ์ กสิยะพัท (กทม.), ทองแดง ภควัต จันทรสงค์ (สุพรรณบุรี), สแครท 6 กม. บุคคลหญิง ทอง จุฑาธิป มณีพันธุ์ (อำนาจเจริญ), เงิน สุทารัตน์ บุญสวัสดิ์ (กทม.), ทองแดง จริยา ชุ่มลือ (พะเยา)
          สปรินต์ ทีมชาย (3 รอบ) ทอง กรุงเทพมหานคร (สิทธิชัย ฤทธิ์สิลป์, ศุภัทร ธีรวณิชนันท์, วรยุทธ คะปัญญา, มฤคินทร์ คุ้มวงศ์) 01.07.72 น., เงิน ศรีสะเกษ (พีรพัฒน์ เกิดชุ่ม, ทศพล เจริฐพรหม, อธิวัฒน์ ชินค่า, ณัฐวร เหมือนสีเลา) 01.10.03 น., ทองแดง พะเยา (จรัสพงศ์ นิวันติ, ชลธิศ จีบถาวร, จตุรงค์ นิวันติ, พงษ์เทพ ท่าพิมาย) 01.10.67 น.
          เปอร์ซูต ชาย (4 กม.) ทอง ธุรกิจ บุญรัตนธนากร (เชียงราย) 04.58.97 น., เงิน พีรพัฒน์ เกิดชุ่ม (ศรีสะเกษ) 05.08.39 น., ทองแดง จักรพันธุ์ เรือนแพ (สุราษฎร์ธานี) 05.15.40 น., สปรินต์ หญิง ทอง ชนากานต์ ศรีชะอุ่ม (ชลบุรี), เงิน วาทินี ลือขจร (ศรีสะเกษ), ทองแดง อภิญญา พรหมบุตร (กทม.), สปรินต์ ชาย ทอง พงษ์เทพ ท่าพิมาย (พะเยา), เงิน วิวัฒน์ไชย ช่วยขุน (สุราษฎร์ธานี), ทองแดง สิทธิชัย ฤทธิศิลป์ (กทม.)
          เชียงใหม่-กทม. เจ้าซอฟท์บอล
          ซอฟท์บอล ที่สนามหน้าตึกอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชิง 2 ทอง ประเภททีมชาย ระหว่าง “เจ้าภาพ” เชียงใหม่ ลงสนามพบกับ ชัยภูมิ ผลปรากฏว่า เจ้าภาพ เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมเอาชนะขาด 7-2 คะแนน คว้าแชมป์ไปครอง ส่วนเหรียญทองแดง เป็นของชลบุรี ขณะที่ทีมหญิง เป็นการชิงกันระหว่าง “เจ้าภาพ” เชียงใหม่ กับ กรุงเทพมหานคร ผลปรากฏว่า สาวบางกอก เอาชนะไป 10-1 ผงาดคว้าแชมป์เช่นเดียวกัน และเหรียญทองแดง ชลบุรี
          แฮนด์บอลกทม.เฉือนศรีสะเกษ
          แฮนด์บอล ชิง 2 ทอง ที่ อาคารสายธารธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ ประเภททีมหญิง ศรีสะเกษ ที่ขนเอาบรรดาทีมชาติมาลงทำการแข่งขัน ซึ่งศรีสะเกษนั้น เป็นเจ้าของเหรียญทองมาแล้ว 6 สมัยก่อนที่ในกีฬาแห่งชาติ ชลบุรีเกมส์ และขอนแก่นเกมส์ นักกีฬาจะติดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์เกมส์ ที่ประเทศโอมาน เจอกับ คู่แค้นตลอดกาล ขอนแก่น ซึ่งครึ่งแรกนั้น เป็นศรีสะเกษที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงทำคะแนนนำไปก่อน 25-19 คะแนน ก่อนที่ในครึ่งหลัง ศรีสะเกษที่ฟอร์มทีมมาดีกว่าเป็นฝ่ายยิงไปอีก 22-14 คะแนน หมดเวลา ศรีสะเกษ เอาชนะไป 47-33 คะแนน ทองแดง กรุงเทพมหานคร กับ นนทบุรี
          ขณะที่ประเภททีมชายนั้นเป็นไปอย่างสุดมันส์ กรุงเทพมหานคร ดวลกับ ศรีสะเกษ โดยครึ่งแรกนั้นเป็น กรุงเทพมหานคร ที่นำศรีสะเกษไป 17-16 คะแนน ศรีสะเกษ ตามเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น ครึ่งหลัง ศรีสะเกษ บุกอย่างเต็มสูบ เพื่อที่จะหาทางยิงประตูกรุงเทพมหานครให้ได้ แต่กรุงเทพมหานครก็แข็งแกร่งเช่นกันเกมเป็นไปอย่างสนุกเพราะทั้งคู่ผลัดกัน ยิงประตู จบครึ่งหลังคะแนนเท่ากันที่ 16-16 คะแนน หมดเวลา กรุงเทพมหานคร เอาชนะ ศรีสะเกษ ไป 33-32 คะแนน ทองแดง เป็นของ ชัยภูมิ กับ สมุทสาคร
          คาราเต้หนุ่มกรุงทองต่อสู้ทีม
          คาราเต้-โด ที่ ม.นอร์ทเชียงใหม่ ชิง 1 ทอง ประเภทต่อสู้ทีมชาย รอบชิงฯ ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง ทีมนักคาราเต้จากเมืองหลวง กรุงเทพฯ ที่ประกอบด้วย วัชระ เจริญพาโชค, ทรงพล งามพึงพิศ, สันติ เรือมา, ทวีลาภ งามพึงพิศ, ศุภ งามพึงพิศ, วีระยุทธ อุทพันธ์, คมฤทธิ์ หาญเบญจพงศ์ ลงดวลกับทีมคาราเต้จาก กระบี่ ที่มี ภาณุชิต จันทร์แก้ว, กานต์ชนก หนูรินทร์, ทรงวุฒิ หมุนแทน, กฤดิ หนูรินทร์, อนันต์ ผิวดี, วรพล เกื้อผล และ สุธี ผาติวิกรานต์ โดยเกมการแข่งขันรอบชิงเป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อหนุ่มนักคาราเต้ทั้งสองทีมต่างผลัดกันออกมาแลกอาวุธสู้กันอย่างดุเดือด ผลัดกันแพ้ชนะทีมละ 2 คู่ จนทำให้ต้องตัดสินจากการโหวตของกรรมการเพื่อหาผู้ชนะก่อนที่ ผู้ตัดสินทั้ง 5  คนจะโหวดเสียงให้ หนุ่มกรุงเทพฯ ชนะไป พร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครองในประเภททีมไปครองได้สำเร็จ
          นักโดดร่มชลบุรีแจ๋วงาบ 2 ทอง
          กีฬาทางอากาศ ที่กองพลทหารราบที่ 7 ชิง 3 ทอง รายการที่น่าสนใจอยู่ที่โดดร่ม ประเภทความแม่นยำ บุคคลชาย ผลปรากฏว่าเหรียญทอง คมสัน ภูพลผัน หนุ่มนักโดดร่มจากจังหวัดที่ 77 ของเมืองไทย บึงกาฬ กระโดดเหินฟ้าก่อนร่อนลงได้อย่างแม่นยำทำแต้มเสียน้อยที่สุด 24 คะแนน ส่วนเหรียญเงิน อนันต์ ชื่นนคร จากขอนแก่น ทำแต้มเสีย 26 คะแนน และ ชัยวุฒิ วงค์กฤษ จากลพบุรีทำแต้มเสีย 29 คะแนน ส่วนโดดร่ม ประเภทความแม่นยำ บุคคลหญิง ทอง เพ็ญศรี หนูสันเทียะ (ชลบุรี) เสีย 20 คะแนน, เงิน จรัมพร บุญทากลาง (เพชรบุรี) เสีย 26 คะแนน และทองแดง นารีรัตน์ เรืองทอง (กทม.) เสีย 40 คะแนน, โดดร่ม ประเภทรวมคะแนน ทอง นคร ประเสริฐกุล / เพ็ญศรี หนูสันเทียะ (ชลบุรี) เสีย 67 คะแนน, เงิน นารีรัตน์  เรืองทอง / เกษม อิทธิโชติเดโช (กทม.) เสีย 73 คะแนน, ทองแดง อนันต์ ชื่นนคร / อรุณี มณีวงษ์ (ขอนแก่น) เสีย 86 คะแนน
          ‘อนุศิษฏ์’สาดแข้งซิวทองให้กระบี่
          มวยไทยสมัครเล่น ที่โรงยิม 3 สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ชิง 10 ทอง ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นไลต์เวต น้ำหนัก 57 กก.แต่ไม่เกิน 60 กก. ชาย รอบชิงชนะเลิศ ที่เป็นการพบกันของ อนุศิษฎ์ ระเหม นักชกจากระบี่ ลงดวลหมัดกับ กล้า พัตรภักดิ์ จากลพบุรี เปิดฉากมาตั้งแต่ยกแรกทั้งคู่ออกแลกอาวุธหมัดเท้าเข่าศอกใส่กันแบบไม่ยั้ง ตลอด 3 ยก ชนิดทำเอาคนดูในสนามส่งเสียงเชียร์กันดังสนั่น และแทบมองไม่ออกว่าฝั่งไหนจะเป็นผู้กำชัย ก่อนที่กรรมการผู้ชี้ขาดทั้ง 5 ท่านจะลงคะแนนให้นักมวยจากกระบี่เอาชนะกล้าไปได้แบบหวุดหวิด 3-2 คะแนน ทำให้อนุศิษฎ์คว้าเหรียญทองในรุ่นนี้ไปครอง
          ส่วนผลรุ่นอื่นๆ มีดังนี้ รอบชิงชนะเลิศ รุ่นพินเวต น้ำหนัก 42 กก.แต่ไม่เกิน 45 กก. ชาย ยุทธนา ตะเคียนราม (กทม.) ชนะ บุญนำ ปัญจรักษ์ (สกลนคร) 5-0 คะแนน, ไลต์ฟลายเวต น้ำหนักเกิน 45 กก.แต่ไม่เกิน 48 กก. ชาย ฉลองชัย มีนิลดี (สุพรรณบุรี) ชนะ วุฒิธิกร พัฒนา (อยุธยา) 5-0 คะแนน, ฟลายเวต น้ำหนัก 48 กก. แต่ไม่เกิน 51 กก. ชาย  สุวิทย์ แก้วสุวรรณ (ขอนแก่น) ชนะ ปวิช สมพร (ศรีสะเกษ) 5-0 คะแนน, เฟเธอร์เวต น้ำหนัก 54 กก.แต่ไม่เกิน 57 กก. ชาย เทวินทร์ พละศักดิ์ (ศรีสะเกษ) ชนะ ชนะชน สุกใส (อุบลราชธานี) 3-2 คะแนน, ไลต์เวลเตอร์เวต น้ำหนัก 60 กก.แต่ไม่เกิน 63.5 กก. ชาย อภิวัฒน์ ศรีโพวัง (ขอนแก่น) ชนะ วุฒิชัย มีจันทร์ (พัทลุง) 3-2 คะแนน, แบนตั้มเวต น้ำหนัก 51 กก. แต่ไม่เกิน 54 กก. ชาย ธิวากร วงศ์ละคร (ศรีสะเกษ) ชนะ อานนท์ จันทร์ศักดิ์ (พิษณุโลก) 4-1 คะแนน, เวลเตอร์เวต น้ำหนัก 63.5 กก. แต่ไม่เกิน 67 กก. ชาย ภานุพงศ์ ตั้นจัด (สุรินทร์) ชนะ พิทัต ผลทวี (ชลบุรี) 5-0 คะแนน, ไลต์มิดเดิลเวต น้ำหนัก 67 กก. แต่ไม่เกิน 71 กก. ชาย อำนาจ เนินกระโทก (กทม.) ชนะอาร์เอสซี (ยก 4) อภิรักษ์ ฤาดี (ระยอง), มิดเดิลเวต น้ำหนัก 71 กก. แต่ไม่เกิน75 กก. ชาย จักรพันธ์ ตองติดรัมย์ (ร้อยเอ็ด) ชนะอาร์เอสซี (ยก 2) ธีรศักดิ์ มาหลาย (ประจวบคีรีขันธ์)
          สารคามเหมา 2 ทองโกะทีมช-ญ
          หมากล้อม ศาลาราชมงคล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ชิง 2 ทอง ประเภททีมชาย รอบชิงชนะเลิศ ผลปรากฏว่าเหรียญทองตกเป็นของทีมหมากล้อมหนุ่มหาสารคาม ที่ประกอบด้วย อภิเดช จิรโศภิน, ฤทธิ เบญจฤทธิ์ และ ธนพล เตียวัฒนานนท์ สามารถเฉือนเอาชนะกรุงเทพมหานครไปได้ 1-0 คะแนน ส่วนทองแดง ชุมพร และภูเก็ต ด้านประเภททีมสาว มหาสารคาม ที่ประกอบด้วย มธุภาณี อุ่นศิวิไลย์, ศศพร จอมหงษ์, วราพรรณ นาวารักษ์ ก็เอาชนะ ภูเก็ต ที่ประกอบด้วย อนงค์ เชิดชูชัยไพบูลย์, วรุณวิภา ชื่นอารมย์, กรองกมล เมฆหมอก ส่วนทองแดง กรุงเทพฯ กับ นครราชสีมา
          หนุ่มโคราชลบแค้นผงาดเจ้าลูกยาง
          วอลเลย์บอลในร่มที่โรงยิมส์ 1 สนามกีฬาสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ ชิงชัย 2 เหรียญทอง ประเภททีมชาย คู่ชิงชนะเลิศโคจรมาเจอกันระหว่างคู่ชิงปีที่แล้ว “แชมป์เก่า” กรุงเทพมหานคร กับ นครราชสีมา รองแชมป์ปีที่แล้ว สำหรับทีมแชมป์เก่า นำโดย วรุฒม์ วิเศษสิงห์, สนั่น อ้นเกตุ, สุภชัย จินจำรูญ, นพพร จันทร์ทิม, วิสันต์ ทองลักษ์, สราวุธ เขจร และ ธนารักษ์ เรือนศรี เป็นตัวรับอิสระ ขณะที่หนุ่มโคราช ใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับไทยแลนด์ ลีก ได้แก่ วันชัย ทัพวิเศา, นัฐพงศ์ เกษาพันธ์, วุฒิชัย สุขศาลา, พิทักษ์ อู่สูงเนิน, บุศรินทร์ มะโหฬาร และ ไกรสร ศรีทา เป็นตัวรับอิสระ
          โคราช เน้นบอลเสิร์ฟตัดเกม และหัวเสาที่หนักแน่นเฉียบคมของ วันชัย กับ บุศรินทร์ ผสานบอลสั้นของ วุฒิชัย ที่ตบฝังและการบล็อกหน้าคู่ โดยมี วุฒิชัย เจ้าของความสูง 202 เซนติเมตร เป็นหลักในการกดดันผู้เล่นกรุงเทพมหานคร ต้องสกัดกั้นอย่างหนัก ทั้งบล็อกหน้าสองและสาม แต่ด้วยน้ำหนักการตีที่รุนแรงและทิศทางการตีที่ฉลาดทำให้หนุ่ม กรงเทพฯ คุมไม่อยู่ ขณะที่เกมรุกของกรุงเทพฯ เน้นเล่นบอลเร็วมากกว่าการโจมตีหัวเสา เพราะหนุ่มโคราชไล่บล็อก จนแทบกระดิกตัวไม่ได้ ส่งผลให้ นครราชสีมา ล้างแค้นเอาชนะแชมป์เก่าได้อย่างสะใจ สกอร์ 3-0 เซต 25-19, 25-19 และ 25-17
          ขอนแก่นดับเก๋าพี่ยึดบัลลังก์
          ด้านทีมหญิง กรุงเทพมหานคร แชมป์เก่าโคจรมาพบกับ ขอนแก่น รองแชมป์ปีที่แล้ว คู่นี้เคยเจอกันมาแล้วในรอบแรก และเป็น ขอนแก่น ที่เอาชนะมาได้ นัดนี้สองทีมส่งผู้เล่นหลัก 6 คนเดิม กรุงเทพฯ นำโดย พัชรี แสงเมือง, จุฑารัตน์ มูลตรีพิลา, อารีรัตน์ เสนาะเสียง, รัตนาภรณ์ สนวนรัมย์, วราภรณ์ ภูมิเจริญ และ ศิรินทรา สีสุมา ด้าน ขอนแก่น ได้แก่ เอ็มอร พานุสิทธิ์, ฐาปไพพรรณ ไชยศรี, กิตติยากร ผ่านสำแดง, แก้วกัลยา กมุลทะลา, คัทลีย์ ปิ่นสุวรรณ, พัชรี ดีเสมอ และ วราพรรณ โมธรรม เป็นตัวรับอิสระ
          เทียบฟอร์มสองทีมสูสี สาวกรุง ได้เก๋า ส่วน ขอนแก่น อาศัยสดและทีมเวิร์กสำหรับเกมนัดนี้ ขอนแก่น ยังเน้นเสิร์ฟจี้ตัวตี โดยเฉพาะ จุฑารัตน์ ตัวเดินแต้มของ กรุงเทพฯ เพื่อทำลายเกมรุก บีบกรุงเทพฯ จนเล่นไม่ถนัด ต้องพึ่งบอลสั้นของ รัตนาภรณ์ ช่วย แต่ยื้อไม่ไหว ขอนแก่น ชนะก่อน 25-20 เซตสอง ขอนแก่น บอลแรกไม่ดีและเล่นผิดพลาดเอง ทำให้เกมสูสี แต่แต้มนำยังเป็นขอนแก่นตลอดทั้งเซต 24-19 ก่อนเล่นเสียเอง 5 แต้ม กรุงเทพฯ ตีเสมอ 24-24 และ 25-25 ขอนแก่น คุมเกมดีสกัดหัวเสาเก็บสองแต้มปิดเซตชนะ 27-25 ขอนแก่นตามกดดันต่อด้วยบอลเสิร์ฟและไล่บล็อกหน้าคู่ล้มแชมป์เก่าแบบสะใจ 25-16
          ‘ฐาปไพพรรณ-พิทักษ์’ซิวยอดเยี่ยม
          หลังจบการแข่งขัน สมบูรณ์ สุคนธพงศ์ ผู้ช่วยฝึกสอน นครราชสีมา เผยว่า นักกีฬาเล่นได้ตามแผนที่เราวางเอาไว้ จริงๆ ผู้เล่นฝั่งกรุงเทพฯ เขามีความเก๋าและมีประสบการณ์มากกว่า แต่วันนี้ทีมเราทำเกมเสิร์ฟและเล่นลูกบล็อกได้ดีก็เลยชนะได้ตามเป้า ซึ่งทีมเราเองก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ก็ตั้งเป้าไว้ที่แชมป์อยู่แล้ว เพราะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาทีมเราได้แชมป์ไป 2 ครั้ง และเราก็มาที่นี่เพื่อจะเก็บให้ได้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งมันก็สำเร็จในที่สุด
          ส่วนรางวัลนักกีฬาหญิงยอดเยี่ยม เป็นของ ฐาปไพพรรณ ไชยศรี (ขอนแก่น), นักกีฬาชายยอดเยี่ยม พิทักษ์ อู่สูงเนิน (นครราชสีมา), ผู้ฝึกสอนทีมหญิงยอดเยี่ยม บรรจง สมบัติ ผู้ฝึกสอนขอนแก่น และผู้ฝึกสอนทีมชายยอดเยี่ยม เผด็จศึก วรรณโชติ ผู้ฝึกสอนนครราชสีมา
          หนุ่มกาฬสินธุ์ตบป้องชายหาด
          วอลเลย์บอลชายหาด ที่สนามวอลเลย์บอลชายหาด  ชิง 2 ทอง ทีมชาย เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ กับ ชัยรัตน์ หารอาษา คู่แชมป์เก่าจาก กาฬสินธุ์ ไว้ลายเก๋าตบคุมเกมชนะ รวีพล ชำนิธุรการ กับ พงศพัฒน์ สุทธิฤทธิ์ จากสงขลา แบบไม่ยาก 2-0  เซต 21-14 และ 21-13 ทำให้ สองหนุ่มกาฬสินธุ์ คว้าเหรียญทองวอลเลย์บอลชายหาดเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน ทองแดง ปริญญา บัวพันธ์/บุญอนันต์ โสปะติ (ร้อยเอ็ด), ปริญญา พิชญนวกะ/ไพรัช นัคสาร (อุดรธานี)
          ด้านทีมหญิง ไพจิตรา ศรีวิเศษ และ สุฑามาศ อ่อนกล (สุโขทัย) ชนะ ปรียาภรณ์ รักแม่ และ สิริรัตน์ รักแม่ (เลย) 2-1 (21-18, 16-21, 15-13) สุโขทัย คว้าเหรียญทอง ส่วนทองแดง นันทิยา อยู่ภักดี/เดือนเพ็ญ อารีเหลือ (กทม.)
          นักกีฬาชายยอดเยี่ยม เศรษฐวรรษ เพชรสวัสดิ (กาฬสินธุ์), นักกีฬาหญิงยอดเยี่ยม สุฑามาศ อ่อนกล (สุโขทัย), ผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมทีมชาย นริศรา ประภาสโนมล (กาฬสินธุ์) และผู้ฝึกสอนยอดเยี่ยมทีมหญิงชวลิต รำขวัญ (สุโขทัย)
          สุพรรณฯทุ่มงบ 120 ล้านจัดกีฬาชาติ
          นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และนายสุภัทร์ ศรีสุนทรพินิต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานแถลงข่าวเตรียมความพร้อมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 42 “สุพรรณบุรีเกมส์” ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ กรีนเลครีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่
          สำหรับรายการนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-15 ม.ค. 2557 โดยมีสัญลักษณ์นำโชคการแข่งขันเป็นรูปม้าหมอกสีขาว ถือคบเพลิงหอคอยบรรหารฯ ขณะที่สัญลักษณ์นำโชคการแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะจัดต่อจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ประมาณ 1 เดือน ภายใต้ชื่อศรีสุพรรณเกมส์ วันที่ 10-14 ก.พ. 2557 กำหนดให้เป็นรูปปลาถือคบเพลิงหอคอยบรรหารฯ ด้านชนิดกีฬา มี 39 ชนิดกีฬา คือ กรีฑา, กอล์ฟ, กาบัดดี้, กีฬาทางอากาศ, คาราเต้โด, จักรยาน, ซอฟท์เทนนิส, ตะกร้อ, ตะกร้อชายหาด, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, เนตบอล, บาสเกตบอล, บริดจ์, แบดมินตัน, บิลเลียด, สนุกเกอร์, เบสบอล, เปตอง, ฟุตบอล, ฟุตซอล, มวยไทยสมัครเล่น, มวยสากลสมัครเล่น, มวยปล้ำ, ยกน้ำหนัก, ยิงปืน, ยิมนาสติก, ยูโด, รักบี้ฟุตบอล, เรือพาย, ลีลาศ, วอลเลย์บอล, วอลเลย์บอลชายหาด, ว่ายน้ำ, วูซู, วู้ดบอล, เอ็กซตรีม, ฮอกกี้, แฮนด์บอล ส่วน “ศรีสุพรรณบุรีเกมส์” มีกรีฑา, โกลบอล, เซปักตะกร้อ, เทเบิลเทนนิส, บอคเซีย,แบดมินตัน, เปตอง, ฟุตบอล (หู), ฟุตบอล (ตาบอด-หูหนวก), ยกน้ำหนัก, ยิงธนู, ยิงปืน, ยูโด, วอลเลย์บอลยืน-นั่ง, ว่ายน้ำ, วีลแชร์เทนนิส, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ
          ‘พรชัย-โสภิตา’คว้ายอดเยี่ยมยกเหล็ก
          ยกน้ำหนัก ชิง 9 ทอง ที่ ร.ร.ศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ รุ่น 105 กก.ชาย “แจ็ค” สุธิพร วัฒนากสิกรรม (ชุมพร) จอมพลังทีมชาติเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย ทำได้เพียง 1 ทอง ท่าสแนตช์ 135 กก. 1 เงิน น้ำหนักรวม 280 กก. โดยท่าคลีนแอนด์เจิร์ก พลาดได้ที่ 4 147 กก. ขระที่ อนุวัฒน์ วิสาชัย ม้ามืดจากสุพรรณบุรี คว้าไปอีก 2 ทอง ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 170 กก. และ น้ำหนักรวม 290 กก. ส่วนท่าสแนตช์ ได้ 1 เงิน 120 กก. กิตติศักดิ์ รสหอม (ขอนแก่น) ได้ 1 เงิน ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 148 กก. 2 ทองแดง ท่าสแนตช์ 155 กก. น้ำหนักรวม 263 กก. และ จ่าเอกสมชาย จอนเกราะได้ 1 ทองแดง
18 19 20 21