สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หวังเห็นมติคณะรัฐมนตรี

เผยแพร: 05/09/2013 โดย:Web Master

59

 

สหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ หวังเห็นมติคณะรัฐมนตรี เรื่องการหางานให้นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ นำกลับมาใช้อีกครั้ง หลังไฟเขียวไปตั้งแต่ปี 2550 แต่ผ่านมาหลายปี ก็ยังไม่มีใครนำมาใช้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะนักกีฬาหลายคนที่สร้างชื่อยังเตะฝุ่นอีกเพียบ แถมสมาคมยังต้องช่วยนักกีฬากันเองด้วย ด้านการเตรียมทัพไทยลุยโอลิมปิกเกมส์ 2016 สหพันธ์ฯ ร่วมวางแผนการทำงานก่อนล่วงหน้า 3 ปี มอบให้สมาคมกีฬาไปหาข้อมูลยังขาดงบจากภาครัฐอีกเท่าไหร่ให้เสนอเข้ามา เพื่อจะได้นำไปคุยกับหน่วยงานอื่น เติมให้เต็มต่อไป

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานสหพันธ์สมาคมกีฬาชาติ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการสหพันธ์ฯ ที่ห้องประชุม 300 เตียง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมหารือถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อปี 2550 ที่เห็นชอบขอบเขตและแนวทางให้ความช่วยเหลือนักกีฬาที่ประกอบคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ
โดยเฉพาะประเด็นการหางานให้กับนักกีฬา พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ สหพันธ์ฯ อยากให้นำมติครม.ดังกล่าว กลับมาใช้อีกครั้ง หลังมีการอนุมัติไปตั้งแต่ปี 2550 แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปี ก็ยังไม่มีใครนำมาใช้เป็นเรื่องเป็นราว เพราะปัจจุบันนักกีฬาหลายคนที่ทำชื่อเสียงยังไม่มีงานทำอยู่อีกจำนวนมาก แถมสมาคมกีฬายังต้องช่วยนักกีฬากันเองด้วย โดยสหพันธ์ฯ จะนำหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงความชัดเจนว่าจะต้องเป็นอย่างไร
นพ.มีชัย อินวู้ด รองประธานสหพันธ์ฯ กล่าวเสริมว่า ทั้งนี้จากมติครม. ดังกล่าว ได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยรัฐมนตรีดำเนินการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาในเรื่องนี้ ซึ่งเข้าใจว่าทางกระทรวงคงยังไม่ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานแต่อย่างใด
จากนั้นที่ประชุมพิจารณาถึงโครงการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เมืองริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ปี 2016 โดยทางสหพันธ์ฯ จะเข้าไปร่วมวางแผนการทำงานกับหน่วยงานภาครัฐล่วงหน้า ก่อนที่เกมนี้จะเริ่มขึ้นในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งจากข้อมูลโอลิมปิกลอนดอนเกมส์ครั้งล่าสุด มีนักกีฬาที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย 38 คน จาก 17 ชนิดกีฬา ดังนั้นเป้าหมายในการผ่านควอลิฟายในโอลิมปิกที่บราซิลครั้งนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคาดการณ์ตัวเลขไว้ที่นักกีฬา 100 คน โดยต้องการเห็นกีฬาประเภททีมผ่านการคัดเลือกด้วย
พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวอีกว่า สหพันธ์ฯ ซึ่งประกอบด้วยสมาคมกีฬาต่างๆ จะได้ร่วมวางแผนการเตรียมนักกีฬาด้วยอีกทางหนึ่ง โดยจะให้สมาคมกีฬาที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ กลับไปหาข้อมูลในการเตรียมนักกีฬาล่วงหน้าว่าในช่วงเวลา 3 ปี จะใช้งบประมาณในการส่งนักกีฬาเข้าไปคัดเลือกเท่าไหร่ จะได้นักกีฬากี่คน โดยเป็นงบที่คาดว่าจะได้จากรัฐบาลเท่าไหร่ให้เสนอเข้ามา เพื่อจะได้นำไปคุยกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่สหพันธ์ฯ ได้เข้าไปประสานงานสนับสนุนงบประมาณแล้ว และหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเติมให้ส่วนที่ยังขาดอยู่ อันจะทำให้การเตรียมทัพไทยสู้ศึกโอลิมปิกเกมส์มีความพร้อมมากที่สุด