สำหรับเงินอัดฉีดที่ทัพนักกีฬายกน้ำหนักจะได้รับจากการกองทุนนพัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ (ทอง 2 แสน,1 แสน,ทองแดง 5 หมื่น) คิดเป็นเงินรวมทั้งหมด 2,050,000 บาท จากการสังเกตของผู้เขียน พบว่าในการแข่งขันยกน้ำหนักซีเกมส์ ครั้งนี้ ไทยเราพัฒนานักกีฬาไปไกลกว่าชาติอื่นในย่านอาเซียนอยู่หลายช่วงตัว
ง่ายที่สุดที่นำมาสู่ข้อสรุปดังกล่าว คือ การเรียกน้ำหนักในการยกครั้งแรก นักกีฬายกเหล็กไทย จะเรียกมากกว่าชาติอื่นอยู่ประมาณ 5 กก. สมมุติฐานของการเรียกน้ำหนักครั้งแรก คือเป็นน้ำหนัก ที่ตัวนักกีฬาและโค้ชมั่นใจว่า สามารถยกติดได้อย่างแน่นอน และก็ไม่มีอะไรที่พลิกโผผิดคาด การเรียกน้ำหนักบางทีก็บ่งบอกชัดเจนแต่ต้นว่าใครคือแชมเปี้ยน
สำหรับวันที่ถือว่าท็อปฟอร์มที่สุดของนักกีฬายกเหล็กไทย คือ วันที่ 19 พ.ย.54 เมื่อเราสามารถกวาดมาได้ครบ 4 ทอง พิทยา ตีบนอก 85 กก. ชาย,สุทธิพร วัฒนากสิกรรม 94 กก. ชาย,ขวัญชัย นุชพุ่ม 105 กก.ชาย และ สุรพงษ์ วัฒนากสิกรรม เกิน 105 กก. ชาย ซึ่งนอกจากหยิบหมดทั้ง 4 เหรียญแล้ว ยังสร้างสถิติซีเกมส์ขึ้นมาใหม่ ได้ถึง 10 รายการ จากทั้งหมด 12 รายการ
ขณะที่นักยกเหล็กหญิง ถือว่าไร้เทียมทานจากการส่งลงแข่ง 5 รุ่น ปรากฎว่า แปรเป็นผลลัพธ์ 5 ทอง จาก พนิดา คำศรี 48 กก.หญิง,ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล กับซีเกมส์คร้งสุดท้ายในรุ่น 53 กก.หญิง,รัตติกาล กุลน้อย 58 กก,หญิง,พิมศิริ ศิริแก้ว 63 กก.หญิง,วิริยา สุวรรณรัตน์ 68 กก.หญิง
“เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลงานที่ทัพนักยกเหล็กไทยสามารถสร้างผลงานในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 อินโดนีเซีย ได้อย่างยิ่งใหญ่ ว่า หลังจากกลับมาจากการแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่ฝรั่งเศส ทางสมาคมฯ ตัดสินใจดึงนักกีฬาชุดเอบางคนเข้ามาเสริม ทำให้ทีมแข่งแกร่งขึ้น โดยเป้าหมายก่อนมาเราคิดว่า 5 ทองเราทำได้แน่นอน แต่ก็ทะลุเป้ามาถึง 9 ทอง การแข่งขันที่อินโดนีเซียเข้มข้นมากสนุกมาก กองเชียร์ของเจ้าภาพก็เยี่ยม กองเชียร์เราก็เยี่ยม เป็นการแข่งขันที่ดี
ตอนนี้เรามองไปถึงโอลิมปิกแล้ว ตามโควตาเรามีสิทธิ์ส่ง ผู้ชาย ได้ 3 คน ผู้หญิง 4 คน ซึ่งเรามีคนที่อยู่ในใจอยู่ประเภทละ 6 คน อย่างไรก็ตามคงมีการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อดูผลงานกันก่อน ราว 8-10 คน
” ผมมั่นใจว่า วันที่ 28 กรกฎาคม 2555 เราจะได้เห็นธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาที่ลอนดอนเกมส์ “
Date : 2011-11-22
ที่มา : สยามกีฬา
