ปีแรกของ’ธเนศ เครือรัตน์’กับการคัดท้ายกมธ.กีฬา ส.ส.

เผยแพร: 24/01/2013 โดย:Web Master

          กรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาสภาผู้แทนราษฏร ได้ทำงานของเขาเป็นอย่างดีภายใต้การนำของประธาน “ธเนศ เครือรัตน์” ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย
          หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้ทำขึ้นในปี 2555 และแนวทางที่จะดำเนินการในปี 2556 ได้ว่างไว้พอสมควร เราจึงขอเปิดอกคุยกับท่านธเนศในวาระก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2556
          คุณธเนศกล่าวว่า ตนเองเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวและกีฬาราว 1 ปี ถือว่าทำงานไปได้ในระดับหนึ่งภารกิจมีทั้งการประชุมตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ ที่มีปัญหาในวงการกีฬา และได้เดินทางไปดูแลความเป็นอยู่ของนักกีฬาไทยทุกการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ ที่ลอนดอน เอเชียนบีชเกมส์ ที่ไห่หยาง ประเทศจีน หรือแม้กระทั่งกีฬาแห่งชาติทุกครั้ง กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ทางคณะกรรมาธิการก็ให้ความสำคัญ ไปไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ และร่วมเชียร์นักกีฬาทุกครั้ง
          “เราพบว่า การเดินทางของนักกีฬาไทยไปต่างประเทศก่อนหน้านี้ทุกครั้งไม่ได้ไปโดยสายการ บินแห่งชาติ คือการบินไทย เราก็มองว่าไม่ได้ต้องไปสายการบินแห่งชาติของเรา เพราะว่าเป็นความภาคภูมิใจของไทย อย่างซีเกมส์ที่อินโดนีเซีย เราทราบว่าไม่ใช้สายการบินไทย ก็มีการทักท้วงหลังจากนั้นก็เห็นว่าใช้สายการบินแห่งชาติตลอด” ประธานกรรมาธิการกล่าว
          สำหรับภาระหน้าที่นั้น คุณธเนศกล่าวว่า กรรมาธิการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ก็ไปคุยถึงความพร้อมในสมาคมต่างๆ ก็พยายามถามว่ามีอะไรบ้างทั้งก่อนไปแข่ง ระหว่างแข่ง และหลังแข่ง ดูปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ว่าทางสมาคมต่างๆ มีอะไรขาดตกบกพร่องบ้าง เราทราบก็นำเรียนเสนอต่อนายกรัฐมนตรีให้ทำการช่วยเหลือ
          “ปัญหาส่วนใหญ่ที่เราทราบจากการสอบถามคืองบประมาณเป็นหลัก การเดินทางเบี้ยงเลี้ยง การสนับสนุนต่างๆ อาหารไม่พอเป็นต้น บทบาทเราค่อนข้างจำกัด เพราะไม่ใช่ฝ่ายบริการ แต่เป็นฝ่ายตรวจสอบ เมื่อสมาคมร้องเรียนก็นำเสนอเช่น สมาคมร้องเรียนว่าไม่ได้รับความยุติธรรมบ้าง ขัดแย่งบ้าง งบประมาณ ไม่เพียงพอบ้าง อย่างสมาคมยกน้ำหนักฯ โดนค่าปรับจากสหพันธ์ฯ ถึง 10 ล้าน ก็ได้คุยกับท่านนายกฯ ให้ช่วยสนับสนุนเพื่อให้สิทธินักกีฬาคนเดิมไปแข่งขันได้ นายกฯ ก็เมตตาให้การสนับสนุนเอาเงินไปใช้จ่ายค่าปรับก่อนจนได้ไปแข่งโอลิมปิกอย่าง ไม่เป็นปัญหา”
          ในส่วนอื่นๆ นั้น กรรมาธิการได้ไปเสนอจัดตั้งโรงเรียนกีฬาที่จังหวัดนครนายก เพราะทางภาคกลางแถบนั้นไม่มีโรงเรียนกีฬา เมื่อต้องการเปิดเราก็เป็นตัวกลางในการจัดหาสถานที่ และได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาลให้ด้วย สถานที่ได้มาเรียบร้อย ขณะนี้กำลังเริ่มต้นและประมาณการก่อสร้าง
          การก่อสร้างสนามฟุตบอลของกรุงเทพมหานคร ในการจัดฟุตซอลโลกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางคณะกรรมาธิการชุดนี้จับมาตลอด ซึ่งอีกฝ่ายอาจมองว่าเป็นการเมืองเข้าไปหรือเปล่า จริงๆ แล้วอยากร่วมมือช่วยกันจับมาตลอด ซึ่งอีกฝ่ายอาจมองว่าเป็นการเมืองเข้าไปหรือเปล่า จริงๆ แล้วอยากร่วมมือกันจากใจจริงๆ อยากให้สำเร็จไม่เกี่ยวกับการเมือง โดยตนเองกับคุณชายสุขุมพันธุ์ก็สนิทกันมากมานานแล้ว
          การผลักดันให้ทีมลีกภูมิภาคได้การสนับสนุน 1 ล้านบาท ทางกรรมาธิการก็เป็นต้นเรื่อง โดยได้รับการร้องเรียนมา ก็เชิญทาง กกท., กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ช่วยทีมละ 1 ล้าน ซึ่งเดิมไม่ถึง ได้เพียงแค่ทีมละ 5 แสน เราก็ว่าควรจะให้ 1 ล้านจะเป็นประโยชน์ ทางกระทรวงก็ให้ 1 ล้าน คาดปีหน้าจะให้เป็น 2 ล้านบาทกับทีมลีกภูมิภาค
          นั่นคือบทบาท และสิ่งที่คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬาสภาผู้แทนราษฏร กระทำในปี 2555 แล้วปี 56 ล่ะ
          ท่านธเนศ เครือรัตน์ ฉายแววตาใช้ความคิดก่อนบอกว่า มองไปที่ผลงานของนักกีฬาไทยที่ต้องช่วยกันกระตุ้น
          “ถ้าประเทศไทยอยากมีเหรียญทองโอลิมปิกหนหน้า ผมว่าต้องเริ่มกันเลย จะต้องเริ่มบัดนี้ ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหา เหมื่อนที่ผ่านมา ต้องเริ่มตอนนี้การสนับสนุนจากทาง กกท.ผู้ฝึกสอน ถ้าคิดเหรียญทองต้องเริ่มบัดนี้
          นอกจากนี้ยังมีเรื่องฟุตบอลที่เป็นความสนใจของคนไทยในระยะนี้ไม่ว่าจะเป็น ไทยแลนด์ลีก ดิวิชั่น 1 หรือลีกภูมิภาค คุณธเนศชี้ว่า ทางกระทรวงต้องประกาศแผนการสนับสนุนทีมให้ชัดเจน เป็นระยะ 5 ปี อย่างไทยลีกมีความเข้มแข็งแล้ว ก็ให้หนุนอย่างไรใน 5 ปีข้างหน้าว่าจะลดลงอย่างไรเพราะว่าเป็นเรื่องของการอาชีพเต็มตัวเหมือนใน อังกฤษที่ทีมอยู่ได้บนขาตัวเอง
          ลีกดิวิชั่น 1 จะหนุนอีก 10 ปี หลังจากครบ 10 ปี แล้วไม่ต้องสนับสนุนก็ได้เป็นต้น คือต้องรู้ว่าผู้ให้จะให้ไปถึงเมื่อไหร่ ทีมต่างๆ จะได้รับทราบอย่างชัดเจนเพื่อเตรียมตัวหาการสนับสนุน ตอนนี้กลายเป็นขอกันเป็นปีๆ ซึ่งไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ซึ่งสโมสรจะได้เตรียมตัวถูก
          ด้านกีฬาซีเกมส์ปลายปีนี้ จะแข่งขันที่เมียนมาร์ ประธานกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวว่าซีเกมส์เราน่าจะมีโอกาสเราน่า จะอยู่ในอันดับหนึ่งได้อยู่ แต่ต้องเริ่มต้นเดี๋ยวนี้เช่นกัน ประเทศต่างๆ เขาก้าวไปไกลแล้ว จริงๆ เราก็วิ่งอยู่แล้วแต่เค้าวิ่งเร็วกว่าก็ไม่เหมาะ เราต้องวิ่งเร็วขึ้น อยากเป็นเจ้าซีเกมส์ต้องเริ่มเดี๋ยวนี้ ร่วมมือกับสมาคมกีฬาต่างๆ ให้ใกล้ชิดไม่ใช่ปล่อยเขาให้ทำนอง
          ก่อนปิดท้ายการสัมภาษณ์ คุณธเนศ เครือรัตน์ สรุปถึงกีฬาเมืองไทยขณะนี้ว่าตนเองมองว่าเป็นเรื่องของการสามัคคี มีปัญหาอยู่บ้าง บางคนเสียสละจริงๆ บางคนหาผลประโยชน์ทำให้การขับเคลื่อนล่าช้า เสถียรภาพรัฐบาลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้กีฬาพัฒนาเช่นกัน เช่นรัฐบาลมั่นคงก็มีบริหารที่ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการสร้างนักกีฬาต้องใช้เวลาถ้ามีการต่อเนื่องก็จะดี เพราะถ้ามีการเปลี่ยนบ่อย ผู้บริหารใหม่ และเก่าไม่เห็นด้วยกันผลเสียก็อยู่กับนักกีฬา
          อีกประการคือ ได้เห็นทุกประเทศตื่นตัวกับการกีฬามาก ถ้าเราไม่สร้างคน สร้างกีฬา เราไม่เร่งจะถูกเข้าแซงไปได้ คนต้องช่วยกัน ร่วมกับฝ่ายการเมือง สร้างเยาวชน  และระเบียบวินัยให้กับพวกเขา “กีฬาไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง เจ้าภาพหลักเป็นฝ่ายรัฐบาล และการเมืองต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ประชาชนต้องร่วมมือ ผู้ปกครอง สถานศึกษาต้องร่วมมือกัน”
          ส่วนเรื่องการแบ่งแยกกระทรวงใหม่ ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น “ถ้าถามในส่วนตัวก็เห็นว่ายังขัดๆ กัน อยู่ระหว่างท่องเที่ยวและกีฬา ผมคิดว่าท่องเที่ยวน่าอยู่กับวัฒนธรรม เพราะมองว่าท่องเที่ยวเป็นเชิงเศรษฐกิจ ขณะที่กีฬากับวัฒนธรรมเป็นเชิงสังคม”
          นี่คือทรรศนะขององค์กรตรวจสอบที่เป็นทางการในองคาพยพของรัฐสภาไทย ที่คัดท้ายเรือโดย “ธเนศ เครือรัตน” ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา
          มีบทบาท และอำนาจมาพอตัวที่จะช่วยขับเคลื่อนวงการกีฬาไทยในปี 2556 นี้
          สรุปผลการดำเนินงาน คณะกรรมาธิการการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2555
          1.พิจารณาเรื่อง ความคืบหน้าในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012
          – คณะกรรมาธิการช่วยพิจารณาปัญหาต่างๆ ช่วยผลักดันให้มีการก่อสร้างสนามต่อไปและติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด จนการก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่ไม่สามารถใช้รองรับการแข่งขันกีฬาฟุตซอลโลกได้ ด้วยเหตุผลของ ฟีฟ่า
          2.เรื่องการเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ อินโดนีเซีย ของนักกีฬาทีมชาติไทย ซึงเดินทางไปโดยสายการบิน การูต้า อินโดนีเซีย
          – คณะ กมธ.ขอให้การบินไทยจัดเที่ยวบินพิเศษให้แก่นักกีฬาไทยทุกครั้งที่จะต้องเดิน ทางไปแข่งขันกีฬาต่างประเทศ เพื่อความสง่างามของนักกีฬาไทย
          3.พิจารณาเรื่อง การเตรียมความพร้อมในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012
          – คณะกมธ.ช่วยเร่งรัดจัดสรรงบประมาณแก่นักกีฬาชนิดต่างๆ และติดตามเรื่องการฝึกซ้อมและความพร้อมของนักกีฬาที่จะต้องเข้าร่วมการแข่ง ขัน
          4.พิจารณาเรื่อง การจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดการแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 2
          – คณะ กมธ.ผลักดันให้มีการปรับเพิ่มงบประมาณ จากทีมละ 5 แสนบาท เป็นทีมละ 1 ล้านบาท และคาดว่าปี 2557 จะเพิ่มเป็นทีมละ 2 ล้านบาท
          5.พิจารณา เรื่อง การหาแนวทางแก้ปัญหาให้แก่สมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กรณีนักกีฬาของสมาคมถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้าม และถูกปรับเงินจากสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ
          – คณะ กมธ.ช่วยเจรจาให้รัฐบาลจัดสรรเงินค่าปรับ จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อช่วยให้นักกีฬายกน้ำหนัก 7 คน ได้เข้าร่วมการแข่งขัน
          6.พิจารณาเครื่อง ความคืบหน้าในการจัดตั้งโรงเรียนกีฬาแห่งที่ 12 ณ จังหวัดนครนายก
          – คณะ กมธ.เร่งรัดให้มีการพิจารณาเลือกพื้นที่เพื่อจัดตั้งโรงเรียนกีฬา และนำเสนอครม.เพื่อดำเนินการให้แล้วเสร็จ