กฟผ.มอบ16ล.หนุนยกเหล็กไทยประเดิมจัดอีแกท

เผยแพร: 22/04/2014 โดย:Web Master

          กฟผ. ใจป้ำ เทงบร่วมสนับสนุนวงการยกเหล็กไทย 16 ล้านบาท
เล็งยกระดับและพัฒนาศักยภาพนักกีฬายกน้ำหนักไทยระยะยาว ลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่บราซิล
ก่อนแถลงความพร้อมระเบิดศึก ”อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน ปี 2557” ที่เมืองหมอแคน
เป็นสนามคัดตัวจอมพลังไปทำศึกยูธโอลิมปิก 2014 และเอเชียนเกมส์ ที่แดนโสม
ระดมนักยกเหล็กทีมชาติไทยชุดใหญ่ลงประลองกับนักกีฬาจากต่างชาติ
          นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
เป็นประธานในการแถลงข่าวการแข่งขัน “อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน ประจำปี 2557″
และ มอบเงินเพื่อสนับสนุนสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จำนวน 16 ล้านบาท
โดยมี “เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกสมาคมยกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบ
พร้อมด้วย นายนริศ อินทรกำแหง รองนายกเทศมนตรีเมืองบ้านไผ่,
นายเจริญชัย สุวรรณศรี ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จ.ขอนแก่น,
ดร.ยุทธศาสตร์ กงเพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก.5 และ นายสมโภชน์ ยิ้มพลอย กรรมการบริหารสมาคม
และประธานฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคม
          สำหรับงบประมาณที่ กฝผ. ได้ร่วมสนับสนุนสมาคมยกน้ำหนักฯ นั้น
เพื่อเน้นยกระดับและพัฒนาศักยภาพนักกีฬายกน้ำหนักไทยในการลุ้นเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ที่บราซิล ปี 2016
ซึ่งการไฟฟ้าฯ ได้ให้เงินเป็นจำนวน 40 ล้านบาท แบ่งจ่ายปีละ 10 ล้านบาท
และสนับสนุนการแข่งขัน อีแกท ยกน้ำหนักนานาชาติ ชิงถ้วยพระราชทาน อีก 24 ล้านบาท แบ่งจ่ายปีละ 6 ล้านบาท
รวมทั้งสิ้น 64 ล้านบาท โดยในครั้งนี้มีจอมพลังจาก 20 ทีมเข้าร่วมชิงชัย รวมนักกีฬากว่า 500 คน จากไทย 27 สโมสร
และต่างชาติอีก 3 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย, บังกลาเทศ และสิงคโปร์ แข่งขัน 2 ประเภท คือยุวชนและประชาชน
          ในประเภทยุวชนทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 2-6 พ.ค. 57 ส่วนประเภทประชาชนทั้งหญิงและชาย
แข่งขันระหว่างวันที่ 7-10 พ.ค. ที่อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนบ้านไผ่ ข.ก. 5 อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น เป็นสังเวียนการแข่งขัน
เริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่ 09.00 น. เป็นต้นไป และความพิเศษของการแข่งขันในปีนี้ จะมีรางวัลพิเศษ “เบสต์ แอ็กชั่น”
มอบให้กับนักกีฬาที่แสดงท่าทางดีใจสุดเท่แหวกแนว หากถูกใจคณะกรรมการการแข่งขัน ก็จะมอบเงินให้เป็นรางวัลด้วย
          ด้าน นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ กล่าวว่า การสนับสนุนของ กฝผ. ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนหลักที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง
มาตั้งแต่ปี 2546 ตามโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สมาคมยกน้ำหนักฯ
สามารถพัฒนาศักยภาพและยกระดับนักกีฬายกน้ำหนักไทยได้สู่สากลได้ตามเป้าหมาย
จากผลงานที่คว้าเหรียญทองในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ในช่วงตลอด 10 กว่าปีหลัง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่โดดเด่น
สำหรับนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้อย่างต่อเนื่อง สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ
และสร้างความสุขให้กับคนไทยมาโดยตลอด
          “เสธ.ยอด” พลตรี อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายใหญ่แห่งบ้านยกเหล็กไทย กล่าวขอบคุณทาง กฝผ.
ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนสมาคม อย่างต่อเนื่องมาตลอด ตั้งแต่ปี 2546 ทั้งการแข่งขันในประเทศ และระดับชาติ
เพื่อร่วมกันสร้างโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนากีฬายกน้ำหนักของไทย
ให้สามารถสร้างชื่อเสียง ความภาคภูมิใจและความสุขสามัคคีให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทย
          “ในปีนี้ถือว่าเป็นปีที่สำคัญมากสำหรับนักกีฬาเยาวชนและประชาชน โดยในรุ่นเยาวชนนั้นต้องขับเคี่ยวกันเพื่อสร้างผลงานที่ดี
ลุ้นติดทีมไปลุยศึกยูธโอลิมปิก ที่เมืองหนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในเดือนสิงหาคม ส่วนในรุ่นประชาชน
ต้องวัดฝีมือกันเพื่อลุ้นแย่งที่นั่งไปลุยเอเชียนเกมส์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในช่วงปลายปี
ทำให้ทุกทีมจัดเต็ม นำนักกีฬาที่ดีที่สุดมาร่วมชิงชัยในครั้งนี้แน่นอน ส่วนประเด็นที่สิงคโปร์เจ้าภาพซีเกมส์ครั้งต่อไป
จะไม่จัดแข่งกีฬายกน้ำหนักในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 28 ปี 2015 นั้น คงต้องรอลุ้นกันหลังวันที่ 28 เม.ย. นี้
โดยทางมนตรีซีเกมส์จะทำการประชุมเพื่อหาข้อสรุป หากไม่มีการจัดแข่งขันจริงในซีเกมส์ คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
ที่จะไม่มีโอกาสใช้ทัวร์นาเมนต์นี้พัฒนานักกีฬาดาวรุ่งของเรา ซึ่งทางออกของปัญหา
เราอาจจะเสนอตัวจัดรายการชิงแชมป์อาเซียนขึ้นมาทดแทน หากสิงคโปร์ไม่จัดแข่งขันจริงๆ”
          ที่มา: http://www.siamsport.co.th